ทริส คงเครดิต MIDA ระดับ BBB-

“ทริสเรทติ้ง” คงอันดับเครดิต MIDA ระดับ BBB- แนวโน้ม “คงที่” คาดรักาส่วนแบ่งตลาดและผลประกอบการในธุรกิจได้ในระดับที่น่าพอใจ ด้านภาระหนี้อยู่ระดับปานกลาง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ไมด้า แอสเซ็ท (MIDA) ที่ระดับ “BBB-” โดยอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงผลกำไรที่สม่ำเสมอจากบริการสินเชื่อซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทได้แก่ ธุรกิจเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ดำเนินงานโดยบริษัทเอง สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ดำเนินการโดย บริษัทย่อยคือ บริษัท ไมด้า ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) และบริท ไมด้า ลาว จำกัด อันดับเครดิจมีข้อจำกัดจากสภาพทางตลาดของธุรกิจเช่าซื้อที่ค่อนข้างเล็ก รวมทั้งฐานรายได้ที่ค่อนข้างน้อยของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจโรงแรม

นอกจากนี้ ภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังคงสูงอาจเป็นข้อจำกัดในการขยายฐานรายได้ของบริษัทในระยะสั้นถึงระยะปานกลางอีกด้วย

สำหรับแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะสามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดและผลประกอบการทางการเงินของธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจเช่าซื้อ ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจโรงแรม เอาไว้ได้ในระดับที่น่าพอใจ แนวโน้มอันดับเครดิตยังคงคำนึงถึงภาระหนี้ของบริษัทที่ยังอยู่ในระดับปานกลาง

ปัจจุบันธุรกิจเช่าซื้อสร้างรายได้อย่างสม่ำเสมออย่างมีนัยสำคัญให้กับริษัท รายได้จากธุรกิจเช่าซื้อซึ่งเป็นรายได้หลักของบริษัทคิดเป็นสัดส่วน 54% ของรายได้รวมในไตรมาสแรกของปี 2561 ขณะที่รายได้จากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สร้างรายได้เป็นสัดส่วน 22% ธุรกิจโรงแรม 15% และธุรกิจให้เช่าพื้นที่และธุรกิจอื่น 9% รายได้ดอกเบี้ยจากธุรกิจเช่าซื้อสร้างรายได้ให้บริษัทประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากการที่บริษัทสามารถรักษาอัตราผลตอบแทนจากธุรกิจเช่าซื้อเฉลี่ยที่ 28% และการเติบโตของพอร์ตลูกหนี้สินเชื่อที่ไม่มากนัก

ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าบริษัทจะมีการเติบโตของพอร์ตของสินเชื่อคงค้างที่ไม่มากในช่วงปี 2561-2563 เนื่องจากลูกค้าสินเชื่อคงค้างของบริษัทเติบโตค่อนข้างช้าจากการแข่งขันที่สูงและหนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและคาดว่าปัจจัยดังกล่าวยังคงอยู่ในระยะปานกลาง ณ สิ้นปี 2560 มูลค่าสินเชื่อคงค้างบริษัทเติบโต 8% เป็น 3,893 ล้านบาทจากปีก่อน ณ สิ้นเดือนมี.ค.251 บริษัทยังคงรักษามูลค่าสินเชื่อคงค้างไว้ใกล้เคียงกับสิ้นปี 2560

ด้านสภาพคล่อทางการเงินบริษัทมีความยืดหยุ่นทางการเงินค่อนข้างมากและสภาพคล่องทางการเงินที่เพียงพอ มีแหล่งเงินทุนหลากหลายจากสถาบันการเงินหลายแห่ง รวมทั้งการออกตั๋วแลกเงินและการออกหุ้นกู้ ณ สิ้นเดือนมี.ค.2561 มีหนี้สิน 4.8 พันล้านบาท โดย 2,10 ล้านบาท กำหนดชำระคืนภายใน 1 ปี ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าเงินผ่อนชำระจากธุรกิจเช่าอจะเพียงพอต่อการชำระคืนเงินกู้ นอกจากนี้การเป็นบริษัทจดทะเบียนทำให้บริษัทสามารถเพิ่มทุนได้เมื่อต้องการ

อย่างไรก็ตามหากตลาดตราสารหนี้กลับมาอ่อนแออีกครั้ง เนื่องจากบริษัทมีต้นทุนทางการเงินที่สูง อาจทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้นจากการกู้เงินใหม่หรือรีไฟแนนซ์หุ้นกู้หรือตั๋วแลกเงิน ต้นทุนทางการเงินของบริษัทปรับเพิ่มเป็น 5.1% ในไตรมาสแรกของปี 2561 จาก 4.4% ในปี 2559 ณ เดือนมี.คซ2561 บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินต่อภาระดอกเบี้ยต่อทุนเป็น 0.95 เท่าและทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราดังกล่าวจะไม่เกิน 1 เท่าเมื่อพิจารณาจากแผนลงทุนของบริษัท