HoonSmart.com>>หุ้นไทยเก่งไม่หลุด 1200 จุด ได้ดาวโจนส์ล่วงหน้า-หุ้นยุโรปฟื้น บล.บัวหลวงเตือนให้ถอยห่าง MINT-CRC มีธุรกิจในยุโรป พลังงาน แนะ ส่งออกอาหาร NRF-RBF-TU อิเล็กทรอนิกส์ บล.ทรีนีตี้ ลดพอร์ตน้ำมัน-ท่องเที่ยว-สนามบินราคาแพงไป เชียร์ฟิลม์ PTL อิเล็กทรอนิกส์ STGT นิวไฮ นักลงทุนลุยซื้อแบงก์ใหญ่ ธปท.ไม่ห่วง NPLs ไตรมาส 3 เพิ่มเล็กน้อย คลังปรับคาดการณ์ GDP ปีนี้เหลือหดตัว -7.7% จากเดิม-8.5%
วันที่ 29 ต.ค. หุ้นเปิดปรับตัวลงแรงตามตลาดต่างประเทศ ลงไปต่ำสุดที่ 1,195.99 จุด ก่อนปิดที่ 1,201.64 จุด -6.30 จุด หรือ-0.52% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 50,838 ล้านบาท จากนักลงทุนต่างชาติขาย 1,170 ล้านบาท ส่วนนักลงทุนไทยซื้อ 1,387 ล้านบาท
ภาวะตลาดดีกว่าที่คาดว่าจะทรุดหนักตามดาวโจนส์ดิ่ง 943 จุด ตลาดหุ้นยุโรป-ราคาน้ำมันดิบทรุด ทองคำร่วงหนักหลุด 1,900 ดอลลาร์ กดราคาในประเทศลดลงบาทละ 300 บาท เพราะในช่วงบ่าย ตลาดหุ้นยุโรป และดาวโจนส์ล่วงหน้าเด้งขึ้น รวมถึงยังคงมีแรงซื้อหุ้นแบงก์ใหญ่ และหุ้นที่ได้รับผลดีจากการระบาดโควิดรอบสอง ส่งผลให้ราคาหุ้น BBL,KBANK,SCB บวกต่อเนื่องจากเมื่อวาน ส่วนหุ้น STGT พุ่งแรง ราคานิวไฮนับตั้งแต่บริษัทเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยปิดที่ 93.25 บาท +4.75 บาทหรือ 5.37% ขณะที่หุ้น AOT ร่วง 3% และ MINT ติดลบ 2%เศษ
แรงซื้อแบงก์ใหญ่ ส่วนหนึ่งมาจากราคาหุ้นลงลึกเกินพื้นฐานมาก และนายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 1 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3/63 ธนาคารพาณิชย์มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ที่ 3.14% เทียบกับไตรมาส 2 ที่ 3.09% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้น ไม่ได้มีนัยสำคัญ โดยกำชับให้ช่วยเหลือลูกหนี้เต็มที่ ปรับโครงสร้างหนี้เชิงรุกมากขึ้น
ขณะเดียวกันสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 63 มาที่ -7.7% จากเดิมคาดการณ์ไว้ที่ -8.5% เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจยังเดินหน้าได้อยู่
ด้านบล.บัวหลวงคาดมาตรการล็อกดาวน์รอบใหม่ แต่ครั้งนี้จะไม่ได้กระทบอุตสาหกรรมภาคการผลิตจนเกิดผลกระทบกับซัพพลายเหมือนรอบแรก เพราะจีนยังทำงาน ขณะที่ยุโรปล็อกดาวน์เพียงระยะสั้น และไม่เข้มงวดเหมือนรอบแรก แต่หุ้นเชื่อมโยงโดยตรงมิอาจจะเลี่ยงผลกระทบได้ เช่น CRC (ห้างอิตาลี) MINT (โรมแรม-ยุโรป) และ กลุ่ม Cyclical commodity (ความต้องการน้ำมันสำเร็จรูป) ส่วนกลุ่มบวก ได้แก่ อาหารส่งออกยุโรป NRF, RBF,TU, โรงไฟฟ้า และกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (work from home)
บล.โนมูระ พัฒนสิน คาดตลาดปรับตัวลง ต้าน 1217/1223 จุด รับ 1197/1191 จุด จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกล่าช้าออกไป กดดันตลาดสินทรัพย์เสี่ยง รวมถึงกดดันราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ปรับฐานแรงกว่า -5.05% สู่ระดับ 39.12 เหรียญ/บาร์เรล จากความต้องการที่มีแนวโน้มหดตัวลงตามเศรษฐกิจโลก ทำให้กลุ่มพลังงานกดดันตลาดได้
บล.ทรีนีตี้ ได้ตรวจสอบการส่งออกไปสหรัฐในช่วงที่มีการล็อกดาวน์พบว่า ดีต่ออาหารทะเลกระป๋องแปรรูป อาหารสัตว์ มองหุ้นที่เกี่ยวข้องได้แก่ ASIAN ฟิลม์ที่ใช้บรรจุอาหาร มองหุ้น PTL และถุงมือยาง ได้แก่ STGT ส่วนหุ้นน้ำมันและหุ้นในกลุ่มท่องเที่ยว ไม่ว่าสนามบิน หรือโรงแรมต่างๆจะยังคงปรับตัวลงต่ำกว่าตลาด จากมูลค่าที่แพงและสะท้อนผลการดำเนินงานไป 2-3 ปี ล่วงหน้าแล้ว จึงยังคงลดน้ำหนักการลงทุนและตกเป็นเป้าของการชอร์ตเซล