TPIPP เผยไตรมาส 2 ปีนี้ ยอดขายไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่ หลังโรงไฟฟ้า 2 โรงขายไฟฟ้าเข้าระบบเมื่อต้นเดือนเม.ย. โบรกฯคาดรายได้ไตรมาส 2 อยู่ที่ 965 ล้านบาท
นายภัคพล เลี่ยวไพรัตน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ (TPIPP) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ ปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตและจำหน่ายจะเพิ่มขึ้นเป็นสถิติสูงสุดใหม่ เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีนี้ ที่มีปริมาณการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า 259 ล้านหน่วย เนื่องจากโรงไฟฟ้า 2 โรง คือ โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะ 70 MW (TG 6) และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้ง 30 MW (TG 4) เริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ (COD) ตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา
“โรงไฟฟ้าทั้ง 2 โรง กำลังการผลิตติดตั้ง 100 MW ได้เริ่มผลิตไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายเชิงพาณิชย์ ให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า PPA 90 MW เป็นที่เรียบร้อย โดยบริษัทได้รับ Adder 3.50 บาทต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปีนับจากวันที่เริ่มต้นซื้อขายไฟฟ้า”นายภัคพลกล่าว
นายภัคพล ยืนยันว่า โรงไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงจากขยะที่ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าไปแล้ว จะไม่มีปัญหาขาดแคลนขยะที่นำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงเพื่อผลิตไฟฟ้า เนื่องจากบริษัทได้ลงทุนขยายโรงคัดแยกขยะและโรงผลิตเชื้อเพลิงจากขยะ (RDF) ในจังหวัดต่างๆ ไว้รองรับ ได้แก่ โรงผลิตเชื้อเพลิง RDF ที่อ.นาดี จังหวัดสมุทรสาคร อ.บางไทร จ.อยุธยา และที่จ.ระยอง ซึ่งเริ่มการผลิตเป็นที่เรียบร้อย และยังมีโรงคัดแยกขยะในจังหวัดต่าง ๆ เช่น กาญจนบุรี นครราชสีมา และระยอง
นายภากร เลี่ยวไพรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ TPIPP กล่าวว่า ปัจจุบัน TPIPP มีโรงไฟฟ้าที่ COD แล้ว 6 โรง กำลังการผลิตติดตั้งรวม 220 MW และในช่วงไตรมาส 2 จะมีการ COD โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะ TG6 และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้ง TG4 กำลังการผลิตรวม 100 MW
นอกจากนี้ จะมีการทยอย COD โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากขยะ-ถ่านหิน 70MW (TG 7) และโรงไฟฟ้าถ่านหิน 150 MW (TG 8) ที่ได้รับอนุมัติ EHIA และเปิดรับฟังความเห็นจากชุมชนไปแล้ว โดยขั้นตอนต่อไปจะสรุปรายงานและเสนอต่อคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อขอออกใบอนุญาตโรงไฟฟ้าต่อไป
บจ.หลักทรัพย์ หยวนต้า ระบุว่า กำไรจากผลประกอบการหลักในช่วงไตรมาส 2 ของ TPIPP จะอยู่ที่ 956 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากโรงไฟฟ้า TG4 และTG6 ที่ COD ไปเมื่อเดือนเม.ย.2561 จะเพิ่มหน่วยขายไฟเป็น 290 ล้านหน่วย ส่วนโรงไฟฟ้าอีก 2 โรง คือ TG7 (Coal/RDF 70 MW) และ TG8 (Coal 150 MW) จะเริ่ม COD ได้ในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งทั้งสองโครงการสร้างกำไรต่อไตรมาสราว 100-150 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม TPIPP ยังต้องรอความชัดเจนจากโครงการ Quick Win โควต้าราว 300 MW ซึ่งคาดเปิดประมูลภายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ขณะที่บริษัทรอเข้าประมูลโครงการโรงไฟฟ้าขยะในกรุงเทพ สงขลา และ โคราช คาดขนาดของโครงการ 10-20 MW ด้วยความเชี่ยวชาญด้านโรงไฟฟ้าขยะ ทำให้มีโอกาสในการได้งานของ TPIPP จึงสูงกว่าคู่แข่ง