ดาวโจนส์ปิดลบ 222 จุด วิตกไวรัส-เจรจามาตรการยืดเยื้อ

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดลบ 222 จุด วิตกไวรัส เจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยืดเยื้อ ตลาดหุ้นยุโรปร่วงยกแผง ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average :DJIA) ปิดตลาดวันที่ 27 ตุลาคม 2563 ที่ 27,463.19 จุด ลดลง 222.19 จุด หรือ 0.80% ท่ามกลางความวิตกต่อสถานการณ์การระบาดของไวรัสที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจำนวนมาก และความหวังที่จะเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ออกมาก่อนวันเลือกตั้งน้อยลง ประกอบกับนักลงทุนจับตาผลประกอบการ ส่งผลให้ดัชนี Nasdaq ปิดบวกก่อนการรายงานผลการดำเนินงานของกลุ่มเทคโนโลยี.

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,390.68 จุด ลดลง 10.29 จุด, -0.30%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,431.35 จุด เพิ่มขึ้น 72.41 จุด, +0.64%

นักลงทุนเริ่มหันไปลงทุนในบริษัทที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการที่คนอต้องอยู่กับบ้านและทำงานจากที่บ้าน แต่ลดการถือครองหุ้นที่ต้องพึ่งพาการเปิดเศรษฐกิจลง

หุ้นแอมะซอนเพิ่มขึ้น 2.5%, หุ้น Shopify 4.3% ค้าปลีกออนไลน์เพิ่มขึ้น หุ้นซูมวิดิโอเพิ่มขึ้น 4.1%. หุ้นไมโครซอฟต์เพิ่มขึ้น 1.5% แต่หุ้นอเมริกันแอร์ไลน์ลดลง 4.8% หุ้นยูไนเต็ดแอร์ไลน์ลดลง 3%

ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากทำเนียบขาวออกมาระบุว่า การเจรจาเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ยังต้องเวลาอีกหลายสัปดาห์ ซึ่งหมายว่าจะไม่มีมาตรการออกมาก่อนวันเลือกตั้ง

นักวิเคราห์ระบุว่า นักลงทุนลดความเสี่ยงเพราะผิดหวังที่การเจรจามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังไม่มีแนวโน้มตกลงกันได้ ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่ทั้งในสหรัฐฯและยุโรปหลายเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้การรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนยังมีผลต่อการลงทุนหลัง แคทเธอพิลลาร์รายงานผลการดำเนินงานไตรมาสสามที่ลดลงอย่างมากจากระยะเดียวกันของปีก่อน

หุ้นผู้ผลิตยา Eli Lilly และ Co fell ลดลงหลังผลกำไรรายไตรมาสตกจากการค่าใช้จ่ายในการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัส และผลการทดสอบกับผู้ที่เข้ารับการรักษาในโรคพยาบาลยังไม่ประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น 13% ในไตรมาสสองของไมโครซอฟต์ทำให้ตลาดลดลงไม่มากนัก

ขณะนี้มี 170 บริษัทในดัชนี S&P 500 แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาสสามแล้ว ซึ่ง 83% มีผลการดเนินงานดีกว่าคาด แต่นักวิเคราะห์มองว่ายังไม่สะท้อนการฟื้นตัวโดยรวมของธุรกิจ แต่ดีขึ้นจากไตรมาสสอง

นักลงทุนยังเกาะติดสถานการณ์การเมืองก่อนการเลือกตั้งที่การแข่งขันระหว่างผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเข้มเข้นมากขึ้นในรัฐที่จัดว่าเป็นสมรภูมิเลือกตั้ง

หุ้น AMD ลดลงหลังประกาศซื้อกิจการ Xilinx มูลค่า 35 พันล้านดอลลาร์ หุ้น Xilinx เพิ่มขึ้น 8.6%

สำนักงานสถิติเผยคำสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 1.9% ดีกว่า 0.5% ที่นักวิเคราะห์คาด

Conference Boardเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนตุลาคมลดลงมาที่ 100.9 จาก 101.3 เดือนกันยายน

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มน้ำมันและก๊าซที่ลดลงกว่า 2% นักลงทุนเกาะติดสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิดที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปทั่วทวีป หลังจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งในสหรัฐฯ รัสเซีย และฝรั่งเศสเพิ่มขึ้นทำสถิติใหม่ ขณะที่อังกฤษเตรียมที่จะยกระดับการเตือนภัยสูงสุดในหลายเมือง ส่วนเยอรมนีเตือนว่าอาจจะสกัดการแพร่ระบาดไม่ได้ นอกจากนี้และเกาะติดการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน ตลอดจนการเจรจามาตรการกระตุ้นศรษฐกิจชุดใหม่ของสหรัฐที่ล่าช้าออกไป

หุ้นบีพี ผู้ผลิตน้ำมันลดลง 2% จากกำไรในไตรมาสสามดีขึ้นจากขาดทุนในไตรมาสสองแต่เป็นเพราะกำไรจากต้นทุนการทดแทนสินทรัพย์

หุ้น เอชเอสบีซีเพิ่มขึ้นกว่า 3% จากผลการดำเนินงานที่ดีกว่าคาด

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 352.58 จุด ลดลง 3.37 จุด, -0.95%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,728.99 จุด ลดลง 63.02 จุด, -1.09%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,730.66 จุด ลดลง 85.46 จุด, -1.77%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,063.57 จุด ลดลง 113.61 จุด, -0.93%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบ เดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 1.01 ดอลลาร์ ปิดที่ 39.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนธันวาคมเพิ่มขึ้น 74 เซนต์ ปิดที่ 41.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล