ดาวโจนส์ปิดลบ 28 จุด ความหวังเห็นมาตรการกระตุ้นศก.แผ่ว

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดลบ 28 จุด ความหวังเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแผ่วลง ตลาดหุ้นยุโรปเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันดิบลดลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average :DJIA) ปิดตลาดวันที่ 23 ตุลาคม 2563 ที่ 28,335.57 จุด ลดลง 28.09 จุด หรือ 0.10% จากความหวังที่จะเห็นการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่แผ่วลง แม้การเจรจาระหว่างพรรคเดโมแครตกับทำเนียบขาวมีต่อเนื่องทุกวัน

อย่างไรก็ตามการปรับขึ้นของกลุ่มบริการสื่อสาร เฮลธ์แคร์ และกลุ่มอื่นช่วยกลบการลดลงของกลุ่มเทคโนโลยีและพลังงาน

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,465.39 จุด เพิ่มขึ้น 11.90 จุด, +0.34%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,548.28 จุด เพิ่มขึ้น 42.28 จุด, +0.37%

ในสัปดาห์นี้ดัชนี DJIA ลดลง 0.95% ดัชนี Nasdaqลดลง 1.1% ส่วนดัชนี S&P 500 ลดลง 0.5%

นายลาร์รี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กให้สัมภาษณ์สำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า มาตรการไม่ได้ออกมาง่ายเพราะแม้จะตกลงกันได้ในไม่กี่วันข้างหน้า แต่ต้องผ่านกระบวนการหลายขั้นตอนทั้งคณะกรรมาธิการ และการโหวตในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา

นักวิเคราะห์ระบุว่า นักลงทุนยังจับตาการเจรจาเกี่ยวกับมาตรการชุดใหม่ ตลาดจึงเหวี่ยงไปมา เพราะยังไม่มีภาพที่ชัดเจน นอกจากนี้ประเมินว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะออกมาหลังการเลือกตั้ง และนักลงทุนเองก็พร้อมที่จะรอมาตรการชุดใหญ่ในเดือนมกราคมหรือกุมภาพันธ์ อีกทั้งเศรษฐกิจยังฟื้นตัวต่อเนื่องแม้จะทิ้งช่วงการออกมาตรการไป 2-3 เดือน เพราะเห็นสัญญานกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ มีการปรับตัวขึ้นมากกว่าตลาด

ส่วนการดีเบทรอบสองระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และนายโจ ไบเดน มีผลต่อตลาดน้อย และผลการสำรงจพบว่านายไบเดนยังมีคะแนนนำประธานาธิบดีทรัมป์ โดยเฉพาะในรัฐที่ถือว่าเป็นพื้นที่สำคัญในการช่วงชิงฐานเสียง โดยเพิ่มขึ้นจาก 4.9 เป็น 5.1

สำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯอนุมัติให้ใช้ยาเรมเดซิเยียร์ของบริษัทกิลเลียด ซายนส์ในการรักษาโควิด หลังจากช่วยให้ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ส่งผลให้หุ้นกิลเลียด ซายนส์เพิ่มขึ้น 0.19% แม้องค์การอนามัยโลกระบุว่ายานี้ได้ผลจำกัด

หุ้นอินเทล คอร์ป ลดลง 10.6% หลังบริษัทเผยรายได้ไตรมาสสามลดลงมากกว่าที่คาด

ไอเอชมาร์กิต เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 55.5 สูงสุดรอบ 20 เดือน จาก 54.3 ในเดือนกันยายน แต่การเติบโตของการจัดตั้งธุรกิจใหม่และคำสั่งซื้อใหม่ลดลงเล็กน้อย ท่ามกลางการระบาดของไวรัสระลอกสองและการระมัดระวังก่อนการเลือกตั้ง

ดัชนี PMI ภาคการผลิตเพิ่มขึ้นมาที่ 53.3 จาก 53.2 ในเดือนก่อนส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเพิ่มขึ้นมา 56 จาก 54.6

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มธนาคารที่เพิ่มขึ้น 2.5% จากผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ขณะที่นักลงทุนยังเกาะติดสัญญานความคืบหน้าของการเจรจาเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ของสหรัฐฯ และการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน

สหภาพยุโรปและอังกฤษเริ่มกลับมาเจรจาข้อตกลงการค้า เพื่อรองรับการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป

ไอเอชมาร์กิต เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเดือนตุลาคมสหภาพยุโรปลดลงมาที่ 49.4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดรอบ 4 เดือน จาก 50.4 ในเดือนกันยายน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 362.50 จุด เพิ่มขึ้น 2.23 จุด, +0.62%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,860.28 จุด เพิ่มขึ้น 74.63 จุด, +1.29%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,909.64 จุด เพิ่มขึ้น 58.26 จุด, +1.20%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,645.75 จุด เพิ่มขึ้น 102.69 จุด, +0.82%

หุ้นบาร์เคลย์เพิ่มขึ้นกว่า 8% หลังรายงานกำไรสุทธิ 611 ล้านปอนด์ในไตรมาสสาม มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดถึง 2 เท่า

หุ้นแดมเลอร์ปรับคาดการกำไรปี 2020 เพิ่มขึ้นหลังความต้องการรถในจีนไตรมาสสามหนุนกำไรจากการจำหน่ายรถเมอร์เซเดสเบนซ์

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบ เดือนพฤศจิกายน ลดลง 79 เซนต์ ปิดที่ 39.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 69 เซนต์ ปิดที่ 41.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล