HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดร่วง 410 จุด วิตกมาตรการเศรษฐกิจออกไม่ทันเลือกตั้ง ไวรัสระบาดรอบใหม่ ด้านตลาดหุ้นยุโรปร่วงยกแผง ราคาน้ำมันดิบลดลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average :DJIA) ปิดตลาดวันที่ 19ตุลาคม 2563 ที่ 28,195.42 จุด ลดลง 410.89 จุด หรือ 1.44% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากความหวังที่จะเห็นการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ก่อนวันเลือกตั้งลดลง รวมทั้งความกังวลต่อการติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นในหลายรัฐ
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3426.92 จุด ลดลง 56. 89 จุด, -1.63%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,478.88 จุด ลดลง 192.67 จุด, 1.65%
ดัชนี DJIA และดัชนี S&P 500 ลดลงมากที่สุดของวันนับตั้งแต่วันที่ 23 กันยายน ส่วน ดัชนี Nasdaq ลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม
ช่วงแรกของการซื้อขายตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น จากความหวังว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่จะออกมาได้ก่อนวันเลือกตั้ง 3 พฤศจิกายน และจากข้อมูลเศรษฐกิจของจีนที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง
เมื่อวานนี้สำนักงานสถิติจีนเผยแพร่ GDP ช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายนขยายตัว 4.9% ต่อเนื่องจากที่เติบโต3.2% ในไตรมาสสอง แต่ต่ำกว่า 5.2% ที่นักวิเคราะห์คาด ด้านยอดค้าปลีกไตรมาสสามเพิ่มขึ้น 0.9% และเพิ่มขึ้น 3.3% เดือนกันยายน ส่วนผลผลิตอุตสาหกรรมไตรมาสมาสเพิ่มขึ้น 5.8% และสูงกว่า4.4% ในไตรมาสสอง และภาคบริการเพิ่มขึ้น4.3% จาก1.9% ในไตรมาสสอง
นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎร ตัวแทนพรรคเดโมแครตกำหนดเส้นตาย 48 ชั่วโมงให้ทำเนียบขาว หากต้องการที่จะผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ออกมาได้ก่อนวันเลือกตั้ง 3 พฤศจิกายน และมีกำหนดที่จะเจรจากับนายสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีคลัง แต่วอชิงตันโพสต์รายงาน ทั้งสองฝ่ายไม่น่าจะตกลงกันได้ ทำให้ตลาดอ่อนตัวลง
นอกจากนี้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดที่แตะ 40 ล้านรายทั่วโลก ก็มีผลให้นักลงทุนกังวลต่อสถานการณ์การระบาดของไวรัส เพราะจากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่าใน 38 รัฐของสหรัฐฯการติดเชื้อ เพิ่มขึ้น 5% และการติดเชื้อรายวันสูงถึงกว่า 16% รายสัปดาห์ส่วนในยุโรปการติดเชื้อเพิ่มขึ้น97,000 รายต่อวัน เพิ่มขึ้น44% จากสัปดาห์ก่อน
หุ้นเทคโนโลนีขนาดใหญ่ลดลง โดยหุ้นอัลฟาเบท หุ้นไมโครซอฟต์ หุ้นแอปเปิล และหุ้นแอมะซอนต่างลดลงอย่างน้อย 2% หุ้นเฟซบุ๊กลดลง 1.7% หุ้นกลุ่มพลังงานลดลง 2.1%
หุ้นโคโนโค ฟิลลิปส์ลดลง 1.3% หลังตกลงที่จะซื้อกิจคอนโช รีซอร์สเซส shale oil ในมูลค่า 9.7 พันล้านดอลลาร์
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มเคมีภัณฑ์ที่ลดลง 0.9% จากความกังวลต่อการแพร่ระบาดของไวรัสระลอกใหม่ ซึ่งกลบความหวังที่มีต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ของสหรัฐฯ
การระบาดของไวรัสรอบใหม่ในยุโรปบางประเทศยังเป็นปัจจัยกดดันตลาด โดยในอิตาลี นายกรัฐมนตรีได้ประกาศมาตรการสกัดการระบาดระลอกใหม่เมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 11,000 ราย โดยจำกัดเวลาให้บริการของร้านอาหารและห้ามการรวมตัวของประชาชน
ในอังกฤษนักลงทุนยังวิตกต่อถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปแบบไร้ข้อตกลง หลังจากนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ประกาศว่า การเจรจากับสหภาพยุโรปจบลงแล้ว และอังกฤษต้องเตรียมทำการค้ากับอียูแบบไร้ข้อตกลงในวันที่ 1 มกราคม
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 366.81 จุด ลดลง 0.67 จุด, -0.18%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,884.65 จุด ลดลง 34.93 จุด, -059%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,929.27 จุด ลดลง 6.58 จุด, -013%,
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,854.66จุด ลดลง 54.33 จุด, -0.42%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบ เดือนพฤศจิกายน ลดลง 26 เซนต์ ปิดที่ 40.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนธันวาคมลดลง 36 เซนต์ ปิดที่ 42.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อ่านข่าว