HoonSmart.com>> บล.ทรีนีตี้ประเมินสถานการณ์ม็อบชุมนุมยืดเยื้อ รูปแบบเปลี่ยนควบคุมสถานการณ์ลำบาก ฉุดหุ้นไทยแกว่งลง คาดกระทบ “หุ้นขนส่งมวลชน-สื่อนอกบ้าน” หนักสุด “BTS-BEM-VGI-PLANB” เซนทิเม้นท์ลบกลุ่มห้างสรรพสินค้า
บริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ ประเมินเหตุการณ์ชุมนุมในครั้งนี้มีโอกาสยืดเยื้อสูงจากจุดยืนของทั้ง 2 ฝ่ายที่ยังคงแตกต่างกันเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งการชุมนุมในรูปแบบปัจจุบันมักเป็นการจัดตั้งแบบกระจายตัวและไม่เป็นหลักแหล่ง (Coordinated) แถมเป็นการชุมนุมแบบไปแล้วกลับ ไม่มีค้างคืน จึงทำให้การควบคุมหรือการสลายการชุมนุมนั้นเต็มไปด้วยความยากลำบาก
นอกจากนั้น ข้อเรียบกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุนมที่ให้นายกลาออก ที่ดูเหมือนจะเป็นข้อที่ทำได้ง่ายที่สุด ดูเหมือนจะไม่ได้รับการตอบรับด้วยเช่นกัน ซึ่งสิ่งที่นักลงทุนในตลาดหุ้นไทยมักไม่ชอบมากที่สุดคือ เหตุการณ์ทางการเมืองที่มีลักษณะยืดเยื้อและไม่สามารถคาดเดาจุดสิ้นสุดได้ จึงประเมินภาพของ SET Index จะยังคงปรับตัวในลักษณะ Sideways ถึง Sideways down พร้อมด้วย Volume ในระดับต่ำต่อไป
บล.ทรีนีตี้ มองผลกระทบจากสถานการณ์การเมืองในประเทศ กระทบกลุ่ม Mass transit มากที่สุด ได้แก่ กลุ่มขนส่งมวลชนและสื่อนอกบ้าน เช่น BTS, BEM,VGI, PLANB จากการที่ชุมนุมรูปแบบปัจจุบันได้มีการเน้นการจัดตั้งไปตามแนวสถานีรถไฟฟ้าต่างๆ ทำให้ต้องมีการปิดการให้บริการเป็นบางสถานีหรือทั้งระบบ เป็นการลดระดับปริมาณ Traffic ของผู้โดยสารลดลงอย่างหลีกเลี่บงไม่ได้ ประเมินหากสถานการณ์ชุมนุมยังคงลากยาวต่อไปจะกระทบต่อการให้บริการของผู้ประกอบการในกลุ่มนี้อย่างสำคัญ
สำหรับกลุ่มอื่นๆ ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบทางเชิงลบในด้าน Sentiment ได้แก่ กลุ่มห้างสรรพสินค้า โดยเฉพาะผู้ที่ให้บริการในพื้นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจต้องปิดการให้บริการก่อนกำหนดและลดการจัดงาน Event ต่างๆ เช่น CRC, CPN, MBK กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง จากเสถียรภาพภาครัฐที่เริ่มมีความไม่แน่นอน จนอาจส่งผลกระทบต่องานต่างๆ ในอนาคตได้ เช่น CK,STEC, ITD, UNIQ กลุ่มนิคมอุตสหกรรม จากการที่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติอาจเริ่มลดลงอีกครั้ง ได้แก่ AMATA, WHA
ส่วนกลุ่มท่องเที่ยว บล.ทรีนีตี้ไม่ได้กังวลจากกรณีดังกล่าวมากนัก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมาจากปัญหา COVID-19 ก่อนหน้านี้อยู่แล้ว ซึ่งถือเป็นผลกระทบที่รุนแรงมากกว่าอย่างมีนัยสำคัญ โดยกลุ่มท่องเที่ยว แนะนำให้ติดตามพัฒนาการของการ Lockdown ที่เริ่มมากขึ้นทั่วโลก ณ ขณะนี้มากกว่า
