HoonSmart.com>>”ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป” โกยกำไรประมาณ 1,900 ล้านบาทไตรมาส 3/63 ทุกธุรกิจดี มาร์จิ้นเพิ่ม บล.หยวนต้าให้เป้า 16.20 บาท ปรับเพิ่มประมาณการปีนี้ ปีหน้าอาจจะทรงตัวเทียบฐานที่สูง ฟินันเซียไซรัสตีมูลค่า 18 บาทประทับใจผลงาน คาดปี 64 โต ทำได้กว่า 6,093 ล้านบาท บล.บัวหลวงให้ค่าสูง 19.70 บาท
บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) วิเคราะห์หุ้นบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) คงคำแนะนำ “เทรดดิ้ง” ราคาเป้าหมาย 16.20 บาท/หุ้น คาดกำไรปกติไตรมาสที่ 3/2563 ที่ 1,904 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากไตรมาสที่ 2 และเติบโต 39% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดย Ambient seafood ยังโตสูง ขณะที่อาหารแช่แข็งฟื้นตัว และกำไรขั้นต้นที่ยังทรงตัวสูง อย่างไรก็ตามส่วนแบ่งขาดทุนจาก Red lobster น้อยลงอย่างมีนัยยะ จากการกลับมาเปิดให้บริการตามปกติราว 80% ของสาขาทั้งหมดในสหรัฐฯ และมีการลดค่าใช้จ่าย
“เรามีมุมมองเป็นบวกมากขึ้น คาดไตรมาส 4 มีกำไรราว 1,400 -1,500 ล้านบาท ชะลอลง 21 -26% เทียบไตรมาสที่ 3 จากปัจจัยฤดูกาล แต่เติบโต 40 – 50% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เพราะราคาตลาดปลาทูน่าเริ่มขยับขึ้น คงประมาณการรายได้ในปีนี้ไว้ที่ 1.30 แสนล้านบาท ปรับประมาณการกำไรปกติ เพิ่มขึ้น 64% เป็น 6,107 ล้านบาท และปรับรายได้ปี 2564 ลง 2% เป็น 1.29 แสนล้านบาท แต่ด้วยฐานที่สูง ทำให้กำไรปกติเป็น 5,963 ล้านบาท แต่ลดลง 2.4%จากปีนี้ มีความท้าทายในการเติบโตหากสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติ ต่างจากหุ้นอื่นในกลุ่มที่เติบโตในอัตราเร่ง เราจึงปรับลด P/Eในการประเมินมูลค่าเหลือ 13 เท่า “บล.หยวนต้าระบุ
บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดกำไรไตรมาส 3 อยู่ที่ 1,889 ล้านบาท เติบโต 10.1% จากไตรมาส 2และเพิ่มขึ้น 37.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หากไม่รวมขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนคาดไว้ที่ -70 ล้านบาท คาดมีกำไรปกติอยู่ที่ 1,960 ล้านบาท เติบโต 28.6% จากไตรมาส 2 และ +43.8% จากระยะเดียวกันปีก่อน ถือเป็นกำไรที่น่าประทับใจ
“หากกำไรไตรมาสที่ 3 เป็นไปตามคาด รวม 9 เดือน บริษัทจะมีกำไรปกติอยู่ที่ 4,271 ล้านบาท เติบโต 12.4% คิดเป็นสัดส่วน 77% ของประมาณการทั้งปี แนวโน้มกำไรน่าจะอ่อนตัวลงในไตรมาส 4 ตามปัจจัยฤดูกาล คงอยู่ที่ 1,200 – 1,300 ล้านบาท รวมกำไรปกติจะเติบโตดี+9.4% เป็น 5,527 ล้านบาท และคาดกลับจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2564 ราว 10.2% อยู่ที่ 6,093 ล้านบาท ยังคงราคาเป้าหมายที่ 18 บาท (อิง P/E เดิม 17 เท่า)”บล.ฟินันเซียฯระบุ
บล.บัวหลวงแนะนำซื้อให้ราคาเป้าหมาย 19.70 บาท ปัจจุบันหุ้นเทรด PE 11.3 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 13.7 เท่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 3 ที่ 1,750 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27%จากปีก่อน และ 2%จากไตรมาส 2 หากไม่รวมรายการพิเศษ กำไรหลักอยู่ที่ 1,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากปีก่อน และ 18%เทียบไตรมาส 2 ซึ่งประมาณการกำไรหลักครั้งนี้ มากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าที่ 1,600 ล้านบาท เพราะผลขาดทุนจาก red lobster น้อยกว่าคาด สำหรับยอดขายคาดที่ 3.45 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น จากราคาขายทูน่าและกุ้งที่เพิ่มสูงขึ้น อัตรากำไรขั้นต้นคาดที่ 17.6% จาก 15.95% ในไตรมาส 3 ปีก่อน เนื่องจากธุรกิจอาการกระป๋องที่ดีขึ้น
บล. ทรีนีตี้ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 18.40 บาท คาดกำไรไตรมาส 3 ที่ 1,749 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นคาดอยู่ที่ 17.6% แม้ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ 18.2% มองแนวโน้มในไตรมาส 4 ยังดีต่อเนื่อง อาจมีการปรับประมาณการกำไรปี 63 ขึ้น กำไรงวด 9 เดือนที่คาดคิดเป็นราว 87% ของประมาณการทั้งปีแล้ว จึงมีโอกาสที่จะปรับประมาณการกำไรปี 63 ขึ้นในอนาคต
บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 18 บาท ปัจจุบันซื้อขายเพียง P/E 11 เท่า คาดไตรมาส 3 มีกำไรสุทธิ 1,809 ล้านบาท ยังโตต่อเนื่อง แต่คาดว่าจะมีขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินบาทแข็งค่า กำไรปกติเพิ่มขึ้น 24% จากไตรมาส 2 และเติบโต 37%จากช่วงเดียวกันปีก่อน มีแนวโน้มปรับประมาณการกำไรปีนี้เพิ่ม
ด้านการซื้อขายหุ้น TUราคาปิดที่ 14.60 บาท +0.50 บาทหรือ 3.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 501 ล้านบาท ปรับตัวดีกว่าตลาดหุ้นโดยรวม+12.23 จุดหรือ +0.98% สำหรับครึ่งวันที่ 6 ต.ค. 2563
