ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 465 จุด “ทรัมป์” ออกจากรพ. หวังมาตรการชุดใหม่

HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดบวก ดาวโจนส์พุ่ง 465 จุด “ทรัมป์” เตรียมออกจากรพ. หวังมาตรการชุดใหม่ ตลาดหุ้นยุโรปเพิ่มขึ้น ราคาน้ำมันดิบพุ่งกว่า 5%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 5ตุลาคม 2563 ที่ 28,148.64 จุด เพิ่มขึ้น 465.83 จุด หรือ 1.68% หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เตรียมที่จะออกจากโรงพยาบาลจากการเข้ารับการรักษาอาการโควิดเป็นวันที่ 4 ทำให้คลายกังวลต่อความไม่แน่นอนทางการเมืองลง

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,408.63 จุด เพิ่มขึ้น 60.19 จุด, +1.80%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,332.49 จุด เพิ่มขึ้น 257.47 จุด, +2.32%

ประธานาธิบดีทรัมป์ทวิตข้อความว่า จะออกจากศูนย์วอลเตอร์รีด เมดิคัลนเวล 18.30 น.(วันจันทร์ตามเวลาในสหรัฐฯ) และรู้สึกสบายดี

ทั้งนี้ ล่าสุดทรัมป์ ได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว

ดร.ฌอน คอนเล่ย์ แพทย์ประจำตัวประธานาธิบดี เปิดเผยว่า อาการของประธานาธิบดีทรัมป์ดีขึ้น แต่ยังไม่ปลอดภัยเสียทีเดียว และจะต้องรับยาเรมเดซิเวียร์โดสที่ 5 ซึ่งเป็นโดสสุดท้ายในคืนวันอังคาร

นักลงทุนยังคาดหวังว่าสภาคองเกรสและทำเนียบขาวจะบรรลุข้อตกลงของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ได้ในเร็วๆนี้หลังจากหลังนางแนนซี เพโลซีประธานสภาผู้แทนราษฎรได้เจรจาผ่านโทรศัพท์กับนายสตีเว่น มนูชินรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังนานเป็นชั่วโมงเพื่อหารือเกี่ยวกับวงเงินและแนวทางการแลกเปลี่ยนเอกสารเพื่อเตรียมการที่จะหารือต่อในวันอังคารนี้

นายมาร์ก มีโดวส์ หัวหน้าคณะทำงานประจำทำเนียบขาวเปิดเผยว่า มีโอกาสที่ทำเนียบขาวจะบรรลุข้อตกลงกับสภาคองเกรสเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ และประธานาธิบดีทรัมป์เองก็ต้องการที่จะผลักดันให้มีข้อตกลง

10 ดัชนี จาก 11 ดัชนีในกลุ่ม S&P ต่างปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มพลังงานเพิ่มขึ้น 1.7% หุ้นเอ็กซอน โมบิล เพิ่มขึ้น 2.3% หุ้นเชฟรอน เพิ่มขึ้น 2.12%รวมไปถึงกลุ่มวัสดุและกลุ่มการเงิน

หุ้นเรเจเนอรอน ฟาร์มาซูติคอลส์(Regeneron Pharmaceuticals )เพิ่มขึ้น 7.13% หลังแพทย์ประจำตัวประธานาธิบดีเปิดเผยว่า ได้ใช้ยาเพิ่มภูมิคุ้มกัน(anti-body)ของบริษัทให้กับประธานาธิบดีทรัมป์ และกลุ่มเฮลธ์แคร์เพิ่มขึ้น 1.7%

ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากรายงานดัชนีภาคบริการเดือนกันยายนที่เพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 57.8
จากการสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) จาก 56.9 ในเดือนสิงหาคม และสูงกว่า 56.0 ที่นักวิเคราะห์คาด
อาการของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ดีขึ้นยังส่งต่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยราคาน้ำมันดิบ

WTI งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนเพิ่มขึ้น 2.17 ดอลลาร์ หรือ 5.9% ปิดที่ 39.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ขึ้น 2.02 ดอลลาร์ หรือ 5.1% ปิดที่ 41.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มเทเลคอมที่เพิ่มขึ้น 2.3% หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯมีอาการดีขึ้นจากการป่ยด้วยโรคโควิด รวมทั้งจากความคาดหวังต่อการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ของสหรัฐฯ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 365.63 จุด เพิ่มขึ้น 2.94 จุด, +0.81%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,942.94 จุด เพิ่มขึ้น 40.82 จุด, +0.69%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,871.87 จุด เพิ่มขึ้น 46.99 จุด, +0.97%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,828.31 จุด เพิ่มขึ้น 139.27 จุด,+1.10%

ในอังกฤษ หุ้น Weir Groupเพิ่มขึ้น16% จากการขายธุรกิจน้ำมันและก๊าซ