MINT ทรุด 2.53% เจอข่าวลือซ้ำสอง บริษัทยันปิด Sizzler ออสซี่ไม่กระทบ

HoonSmart.com>>”ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล”เจอข่าวลบ”สเวนเซ่นส์” กระแทกแรง 2 ครั้ง ล่าสุด ร้าน Sizzler ในประเทศออสเตรเลียปิด ก่อนหน้า Sizzler USA ยื่นล้มละลาย บริษัทยืนยันไม่กระทบแฟรนไชส์ในประเทศไทย พบ MINT ถูกชอร์ตเซลมากกว่า 10% ติดต่อกัน 2 วัน 

หุ้นบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT)ปักหัวลงแรง โดยราคาปิดที่ 19.30 บาท -0.50 บาทหรือ 2.53% ด้วยมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 1,309 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 ต.ค.2563 ที่ผ่านมา ทรุดลงหนักกว่าตลาดที่รูดลง 10 จุด หรือ -0.81%

ในวันเดียวกัน นายชัยพัฒน์ ไพฑูรย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพัฒนาเชิงกลยุทธ์ MINT แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า กรณีที่มีข่าวเกี่ยวกับการปิดร้าน Sizzler ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นร้านที่บริษัทแม่เจ้าของแบรนด์ Sizzler ลงทุนเอง บริษัทฯขอชี้แจงว่า การปิดร้าน Sizzler ดังกล่าวไม่มีผลกระทบกับธุรกิจของบริษัทไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลแต่อย่างใด เนื่องจากบริษัทแม่เจ้าของแบรนด์ Sizzler จะปิดเฉพาะร้าน Sizzler ที่ลงทุนเองเท่านั้น และยังคงดําเนินธุรกิจการให้แฟรนไชส์ รวมถึงการให้แฟรนไชส์ในประเทศไทย และยังคงให้การสนับสนุนการดําเนินธุรกิจร้าน Sizzler ในประเทศไทยอย่างเต็มที่เหมือนที่ผ่านมา

สำหรับการปิดร้าน Sizzler ในประเทศออสเตรเลียเกิดขึ้น หลังจากบริษัทเคยชี้แจงข่าวเรื่อง “Sizzler USA ยื่นล้มละลาย ผลจากวิกฤตโควิด-19” เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ที่ผ่านมา ว่า การยื่นล้มละลายของ Sizzler USA ไม่มีความเกี่ยวข้องและไม่มีผลกระทบกับธุรกิจของบริษัทแต่อย่างใด เนื่องจาก Sizzler ในประเทศไทยได้สิทธิการดําเนินธุรกิจภายใต้แบรนด์ Sizzler จาก Sizzler ใน Australia ซึ่งดูแลธุรกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกทั้งหมด และมีการบริหารงานแยกกันกับ Sizzler USA

ทั้งนี้ บริษัทฯมีร้านอาหารสเวนเซ่นส์ จำนวน 322 สาขา ในไตรมาส 2/2563 เพิ่มขึ้น 1 สาขาจากไตรมาสแรก และเพิ่มขึ้น 95 สาขา จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ณ สิ้นไตรมาส 2/2563 บริษัทมีร้านอาหารทั้งสิ้น 2,363 สาขา แบ่งเป็นสาขาที่ลงทุนเอง 1,184 สาขา สัดส่วนประมาณ 50% ใกล้เคียงกับสาขาแฟรนไสส์ 1,179 สาขา โดยเป็นสาขาในประเทศไทย 1,582 สาขา สัดส่วน 67% และต่างประเทศ 781 สาขา สัดส่วน 33% ร้านอาหารส่วนใหญ่เป็นร้าน เดอะ พิซซ่า คอมปะนี 578 สาขา ตามด้วย สเวนเซ่นส์ ด้านผลการดำเนินงานครึ่งปีนี้มีรายได้จากการดำเนินงานธุรกิจโรงแรมและอื่นๆ 62% ร้านอาหาร 33% จัดจำหน่ายและรับจ้างผลิต 5%

ในช่วงนี้ราคาหุ้น MINT ปรับตัวลงแรง อีกสาเหตุหนึ่งเกิดจากการขายหุ้นล่วงหน้าหรือชอร์ตเซล พบว่า วันที่ 1 ต.ค.มีสัดส่วน 13.46% คิดเป็นจำนวน 5,549,600 หุ้น มูลค่าประมาณ 110 ล้านบาท และแรงขายยังมีต่อเนื่องในวันที่ 2 ต.ต. สัดส่วน 10.34% จำนวน 6,964,800 หุ้น มูลค่าประมาณ 136 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากเทียบกับวันก่อนหน้า 30 ก.ย.ที่ใช้มาตรการชอร์ตเซลชั่วคราว ห้ามขายล่วงหน้าในราคาตลาด ทำให้มีสัดส่วนชอร์ตเซลเพียง 1.50% หรือจำนวน 500,300 หุ้น มูลค่า 10 ล้านบาทเท่านั้น รวมทั้งเดือนก.ย.มีสัดส่วน 2.54% รวม 29,260,600 หุ้น มูลค่าทั้งสิ้น 639 ล้านบาทเท่านั้น