เจพีมอร์แกนมองไทยดีเกินคาด ศก.ปี 63 ติดลบแค่ 3%

HoonSmart.com>>“เจพีมอร์แกน” คาด GDP ไทยปี 63 ติดลบ 3% จากต้นปีคาดติดลบ 9-10% จากการควบคุมโควิด-มาตรการกระตุ้นจากภาครัฐ ส่วนการลงทุนในหุ้นแนะซื้อหุ้นเบอร์ 1 ของแต่ละอุตสาหกรรมเติบโตดี เปิดตัว DW อ้างอิงดัชนี S&P 500 เพิ่ม 4 รุ่น มองตลาดผันผวน ควรกระจายความเสี่ยง  

ม.ล.ชโยทิต กฤดากร

ม.ล.ชโยทิต กฤดากร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทหลักทรัพย์ เจพีมอร์แกน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทฯคาดว่าเศรษฐกิจปี  2563 จะติดลบที่ 3% ซึ่งติดลบลดลงจากต้นปีคาดว่าหดตัวประมาณ 9-10% จากการควบคุมการแพร่ระบาดของประเทศไทยได้ดี และการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่ออกมา และแผนที่จะออกในอนาคต แต่ทั้งนี้ยังต้องติดตามสัญญาณการฟื้นตัวของภาคต่างๆในไตรมาส 3/63

ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพิ่งปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจปีนี้ดีขึ้น เหลือหดตัว -7.8% และปีหน้าเติบโต3.6% ใกล้เคียงกับธนาคารไทยพาณิชย์คาดในปีนี้ และปีหน้าเติบโต 3.5%

ม.ล.ชโยทิตแนะนำการลงทุนในตลาดหุ้นไทย ให้ซื้อหุ้นใหญ่อันดับหนึ่งของแต่ละอุตสาหกรรม ทั้งผลดำเนินการและมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ซึ่งหุ้นใหญ่เหล่านั้นจะต้องเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตในอนาคต หรือสามารถปรับตัวได้ในหลังเกิดโควิด-19

ขณะที่วันนี้ (30 ก.ย. 63 ) บล.เจพีมอร์แกนได้ออกใบแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW)ที่อ้างอิงดัชนี S&P 500 เพิ่ม 4 รุ่น รวมที่ออกตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมาเป็น 8 รุ่น มีทั้งฝั่ง Call และ Put ในอนาคตจะออกมาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทฯ มีส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) ใหญ่เป็น 1 ใน 3 ของตลาดใบแสดงสิทธิอนุพันธ์ทั้งหมด โดยมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันประมาณ 600 ล้านบาท

“ความผันผวนในตลาดหลักทรัพย์เพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และนักลงทุนก็กำลังมองหาโอกาสในการกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน DW41 จึงเป็นทางเลือกในตลาดต่างประเทศ เพื่อช่วยการบริหารพอร์ตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ที่ไม่ใช่เพียงแค่การลงทุนในตลาดเอเชียเพียงอย่างเดียว” ม.ล.ชโยทิต กล่าว