ดาวโจนส์ปิดร่วงกว่า 500 จุด ขายหุ้นเทคโนโลยี วิตกเศรษฐกิจฟื้นช้า

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดร่วง 525 จุด เทขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี วิตกเศรษฐกิจฟื้นช้า ตลาดหุ้นยุโรปสวนทางปรับตัวขึ้น หวังออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม ด้านราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นต่อ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 23กันยายน 2563 ที่ 26,763.13 จุด ลดลง 525.05 จุด หรือ 1.9% จากแรงขายในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และหลังจากข้อมูลล่าสุดสะท้อนว่ากิจกรรมทางธุรกิจชะลอตัวลง ขณะเดียวกันความล่าช้าของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ยิ่งเพิ่มความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของสถานการณ์ระบาดของไวรัส

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,236.92 จุด ลดลง 78.65 จุด, -2.37%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,632.99 จุด ลดลง 330.65 จุด, -3.02%

หุ้นแอมะซอน ลดลง 4.1% หุ้นเน็ตฟลิกซ์ลดลง 4.2%, หุ้นเฟซบุ๊กลดลง 2.3% หุ้นอัลฟาเบท ลดลง 3.5% หุ้นแอปเปิลลดลง 4.2% หุ้นไมโครซอฟต์ลดลง3.3%

นอกจากนี้เงินดอลลาร์ยังแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือนโดย Dollar Index ดัชนีวัดมูลค่าของเงินดอลลาร์ในระบบตะกร้าเงินที่มี 6 สกุลเงินหลักเพิ่มขึ้น 0.45% และตอกย้ำความกังวลที่ว่าการใช้มาตรการจำกัดการเคลื่อนไหวจะมีผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

ไอเอชเอส มาร์กิต เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของเดือนกันยายนลดลงสู่ระดับ 54.4 ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จาก 54.6 ในเดือนสิงหาคม แม้ภาคการผลิตจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจนกลบการลดลงของภาคบริการ สะท้อนว่าการฟื้นตัวเศรษฐกิจอ่อนแรงลง จากการระบาดของไวรัส นอกจากนี้ไอเอช มาร์กิต ยังรายงานว่าความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจในช่วง 12 เดือนข้างหน้าลดลง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายนและการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

นักวิเคราะห์ระบุว่ากิจกรรมทางธุรกิจจะยังอยู่ที่ระดับ 80% ของระดับก่อนการระบาดไปจนกว่าจะมีวัคซีนออกใช้ และเป็นช่วงเวลายากลำบากที่เศรษฐกิจจะฟื้นตัวเพิ่มขึ้นอีก แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐฯจะไม่ใช้มาตรการล็อกดาวน์

ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการให้ความเห็นของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2020 อาจจะจบลงในศาลสูง จึงมีความจำเป็นที่ต้องมีผู้พิพากษาครบ 9 คนจากที่มีอยู่ 8 คน จากการเสียชีวิตของรูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก นอกจากนี้กระบวนการเลือกผู้พิพากษาคนใหม่มาแทนก็ทำให้วุฒิสภามีภาระมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ให้ล่าช้าออกไปอีก

ในการให้ถ้อยแถลงต่อคณะอนุกรรมการประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลาง (เฟด) ระบุว่า มาตรการกระตุ้นทางการคลังยังจำเป็นต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

“เศรษฐกิจดีขึ้นมากแล้ว ซึ่งถือว่าดี แต่ก็ยังต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง การฟื้นตัวจะเร็วขึ้น ถ้ามีการสนับสนุนทั้งจากสภาคองเกรสและจากธนาคารกลาง” นายพาวเวลล์กล่าว

หุ้นไนกี้เพิ่มขึ้น 8.8% จากยอดขายออนไลน์ไตรมาสที่แล้วเพิ่มขึ้นกว่า 80% และยอดขายกับกำไรดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาด

หุ้นกลุ่มพลังงานลดลงจากความกังวลต่อความต้องการน้ำมันชะลอตัวลงจากไวรัสโควิด-19 โดยหุ้นเชฟรอน ลดลง 4.74% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 3.21%

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น นำโดยกลุ่มเดินทางและสันทนาการที่เพิ่มขึ้น 2.3% แม้ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดที่บ่งชี้แนวโน้มแย่ลง ขณะที่นักลงทุนยังคาดหวังความเป็นไปได้ในการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมในยูโรโซน

ไอเอชมาร์กิตเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของเดือนกันยายนลดลงมาที่ 50.1 จาก 51.9 เดือนสิงหาคม เพราะการระบาดของไวรัสซึ่งมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมีผลต่อภาคบริการให้ตกลงและกลบการขยายตัวที่แข็งแกร่งสุดรอบ 2 เดือนของภาคการผลิต จากการที่หลายประเทศในยุโรปได้กลับมาล็อกดาวน์บางส่วน

สเปนปรับ GDP ไตรมาสสองเป็น -17.8% จากไตรมาสที่แล้วและดีขึ้นจาก -18.5% ที่ประเมินครั้งก่อน

ในอังกฤษ ดัชนี PMI เดือนกันยายนลดลงมาที่ 55.7 จาก 59.1 เดือนสิงหาคม และต่ำกว่า 56.3 ที่นักวิเคราะห์คาด

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 359.53 จุด เพิ่มขึ้น 1.98 จุด, +0.55%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิด 5,899.26 จุด เพิ่มขึ้น 69.80 จุด,+1.20%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,802.26 จุด เพิ่มขึ้น 29.42 จุด, +0.62%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,642.97 จุด เพิ่มขึ้น 48.58 จุด, +0.39

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ ปิดที่ 39.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายนลดลง เพิ่มขึ้น 5 เซนต์ปิดที่ 41.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

อ่านข่าว

ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น สต็อกน้ำมันสหรัฐฯ ลดลงสัปดาห์ที่ 2