ศาลยกฟ้องฟื้นฟูกิจการฯGLหุ้นเด้ง22.67%-ผู้บริหารตั้งเป้าเบ่งพอร์ตสินเชื่อโต10%

ศาลฯยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ GL ดันราคาหุ้นพุ่งขึ้น 22.67% ขณะที่ผู้บริหารตั้งเป้าเพิ่มพอร์ตสินเชื่อปีนี้โต 10% มั่นใจปีนี้พลิกกลับมามีกำไร

นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL เปิดเผยว่า วันนี้ (19 มี.ค.) ศาลล้มละลายกลางได้ไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัท GL ซึ่งร้องโดย J Trust Asia Pte. Ltd. อันเป็นบริษัทย่อยของ J Trust Co., Ltd. ในฐานะผู้ถือหุ้นและผู้ถือหุ้นกู้แปลงสภาพของบริษัทมูลค่า 180 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยศาลล้มละลายได้มีคำสั่งยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการดังกล่าว ทำให้ทาง GL สามารถทำธุรกรรมต่างๆได้ตามปกติ

ทั้งนี้ ศาลฯระบุสาเหตุที่ยกคำร้องว่า เนื่องจากจำนวนหนี้ที่ J Trust Asia Pte. Ltd. ได้ฟ้องเป็นจำนวนหนี้ที่ไม่แน่นอน ในขณะที่ศาลแพ่งก็ยังมิได้มีคำพิพากษาหรือคำสั่งแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ศาลได้สอบบริษัทและเจ้าหนี้รายอื่นๆที่มาศาล ได้ความว่าบริษัทไม่ได้มีหนี้สินล้นพ้นตัวและไม่เคยผิดนัดชาระหนี้ และปัจจุบันยังประกอบกิจการเป็นไปด้วยดี รวมทั้งธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของบริษัทก็คัดค้านการฟื้นฟูกิจการ ทำให้เชื่อว่าบริษัทไม่อยู่ในสถานการณ์จะต้องฟื้นฟูกิจการ

นอกจากนี้ การที่ J Trust Asia Pte. Ltd. ขอฟ้องคดีแพ่งต่อศาล เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2561 และมายื่นฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2561 ซึ่งห่างกัน 1 วัน โดยไม่รอศาลแพ่งวินิจฉัยขี้ขาดพิพากษาคดี เป็นการเร่งรีบเกินควร ศาลล้มละลายกลางจึงมีคำสั่งยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ

ส่วนความคืบหน้ากรณีที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวโทษผู้บริหาร GL ชุดก่อนว่ากระทำการทุจริต เบียดบังทรัพย์สินของบริษัท และทำบัญชีไม่ถูกต้อง โดยได้การส่งเรื่องไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการนั้น ทางผู้บริหาร GL ชุดปัจจุบัน พร้อมให้ความร่วมมือกับก.ล.ต.และดีเอสไอ แต่จนถึงขณะนี้ทางดีเอสไอยังไม่เรียกผู้บริหาร GL ไปให้ข้อมูลเลย และเท่าที่ทราบคดีนี้เป็นคดีที่เกิดขึ้นนอกประเทศ ดังนั้น หน่วยงานที่มีอำนาจฟ้องคดีนี้ คือ สำนักงานอัยการสูงสุด โดยขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเรื่องอยู่ในขั้นตอนใดแล้ว

อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทฯอยู่ระหว่างดำเนินการจัดทำ Special audit ตามข้อเรียกร้องของก.ล.ต. ส่วนจะแล้วเสร็จเมื่อไหร่ก็ต้องขึ้นอยู่กับทางผู้จัดทำ รวมถึงคณะกรรมการตรวจสอบชุดใหม่ที่จะทำหน้าที่ตรงนี้ ขณะที่ ณ สิ้นปี 2560 บริษัทฯยังคงมีฐานะที่แข็งแกร่ง โดยมีสินทรัพย์ 14,381 ล้านบาท มีหนี้สิน 8,656 ล้านบาท มีส่วนของผู้ถือหุ้น 5,725 ล้านบาท และในปีนี้ไม่น่าจะมีการตั้งสำรองเพิ่มอีก

นายทัตซึยะ กล่าวว่า ในปี 2561 บริษัทตั้งเป้าหมายเพิ่มพอร์ตสินเชื่อให้เติบโต 10% จากปีก่อนที่มีพอร์ตสินเชื่อ 7,648 ล้านบาท โดยเฉพาะเป้าหมายที่จะเพิ่มพอร์ตสินเชื่อในเมียนมาให้เติบโต 100% จากปีที่แล้วที่มีพอร์ตสินเชื่อ 322 ล้านบาท ส่วนในไทยจะเพิ่มพอร์ตสินเชื่อให้เติบโต 10% จากปีก่อนที่มีพอร์ตสินเชื่อ 4,981 ล้านบาท และลาวตั้งเป้าหมายเพิ่มพอร์ตสินเชื่อให้เติบโต 10% จากปีก่อนที่มีพอร์ตสินเชื่อ 416 ล้านบาท

ขณะที่ในกัมพูชาทาง GL ยังอยู่ในช่วงระมัดระวังไม่ปล่อยสินเชื่อเพิ่มเติม จากพอร์ตสินเชื่อปีที่แล้วที่มีอยู่ที่ 1,683 ล้านบาท เนื่องจากตอนนี้อยู่ในภาวะที่ลูกค้ากู้มากเกินไปจนเกรงว่าจะเกิดหนี้เสียได้ และกรณีอินโดนีเซียยังคงคาดการณ์ไม่ได้ว่าจะเพิ่มพอร์ตสินเชื่อได้หรือไม่ เพราะทาง GL ได้มีข้อพิพาทกับพันธมิตรในอินโดนีเซีย

“เราเชื่อว่าปีนี้พอร์ตสินเชื่อจะเติบโต 10% และจะทำให้เรากลับมามีกำไรชัวร์ จากปีที่แล้วที่เรามีผลขาดทุน เนื่องจากมีการตั้งสำรองจากรายการพิเศษ”นายทัตซึยะกล่าว

นายอาลัน ฌอง ปาสคาล ดูเฟส ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน GL กล่าวว่า ปีนี้บริษัทฯจะเดินหน้าขยายสินเชื่อต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดเมียนมา โดยตั้งเป้าขยายจำนวนลูกค้าสินเชื่อรายย่อยประเภทกลุ่ม (Group Loan) จาก 7.8 หมื่นรายในปีที่แล้วเป็น 160,000 รายในปีนี้ ขยายลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์จาก 9,000 รายในปีที่แล้ว เป็น 25,000 รายในปีนี้ และขยายลูกค้าประเภทสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบการ (Entrepreneur Loan) จาก 100 รายในปีที่แล้ว เป็น 500 รายให้ได้ภายในปีนี้

ทั้งนี้ ในการแถลงข่าววันเดียวกัน ทาง GL ได้เปิดตัวประธานกรรมการ และประธานคณะกรรมการตรวจสอบของGL ชุดไหม่ที่มีการแต่งตั้งไปเมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา โดยนายสกล หาญสุทธิวารินทร์ ประธานกรรมการ และประธานคณะกรรมการตรวจสอบ GL ซึ่งเป็นอดีตข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ได้รับการร้องขอจากผู้ใหญ่ซึ่งเป็นผู้อาวุโสในวงการกฎหมายให้เข้ามาช่วยทำงาน โดยจะเข้ามาทำงานในฐานะกรรมการตรวจสอบที่มีความเป็นอิสระ เพื่อทำให้การทำงานของบริษัทมีความโปร่งใส ยึดหลักธรรมาภิบาล และตรวจสอบได้ รวมทั้งจะให้ความร่วมมือกับก.ล.ต.แ ละ ผู้สอบบัญชี ในการแก้ปัญหาต่างๆ และทำให้มีการควบคุมระบบบัญชีอย่างมีประสิทธิภาพ

ผลจากคำสั่งศาลล้มละลายกลางที่มีคำสั่งยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของ GL ทำให้วันนี้ (19 มี.ค.) ราคาหุ้น GL เพิ่มขึ้นจาก 7.50 บาท เป็น 9.20 บาท หรือเพิ่มขึ้น 22.67%