นักวิเคราะห์ชี้ตลาดไปต่อไม่ไหว ฟินันเซียยก BANPU

ฟินันเซีย เคทีบี และเอเอสแอล มองหุ้นขึ้นแรง 2 วันเป็นเทคนิครีบาวด์ ตลาดยังมีแรงกดดันจากปัจจัยลบ ส่งผลให้ดัชนีขึ้นต่อจำกัด

บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดตลาดหุ้นวันที่ 4 ก.ค.ดัชนีคงจะแกว่งตัวในกรอบจำกัด เนื่องจากกระแสเงินทุนต่างชาติยังไหลออก รวมถึงยังต้องติดตามพัฒนาการของประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนซึ่งยังไม่เห็นสัญญาณว่าจะสามารถเจรจากันได้ก่อนเส้นตายวันที่ 6 ก.ค. รวมถึงยังมีโอกาสเห็นการเรียกเก็บภาษีระหว่างกันเพิ่มเติมระหว่างสหรัฐฯและชาติพันธมิตรอื่นๆ

กลยุทธ์การลงทุนจึงยังให้เน้นหุ้นกลุ่ม Domestic และ Dividend Play เป็นหลักอยู่

” หุ้นที่ขึ้นแรง 2 วันติดต่อกันเป็นเพียงการรีบาวด์ระยะสั้นและกรอบการบวกจำกัด ”

สำหรับหุ้นที่แนะนำคิอ BANPU ให้ราคาเป้าหมาย 26 บาทหลังจากราคาถ่านหินล่าสุดทำจุดสูงสุดในรอบ 6 ปีที่ 118 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ทำให้ราคาเฉลี่ยไตรมาส 2 อยู่ที่ 105 ดอลลาร์ต่อตัน เพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อน เพิ่มขึ้น 30% Yจากไตรมาส 2 ปีก่อน จากปัญหาขาดแคลนถ่านหินในอินเดีย และความต้องการถ่านหินคุณภาพสูงจากจีน

“บริษัทพลิกมามีกำไรราว 3,800 ล้านบาทในไตรมาส 2เพราะธุรกิจหลักฟื้นตัว, ไม่มีค่าปรับแพ้คดีเหมือน ไตรมาส 1และคาดมีกำไรจาก อัตราแลกเปลี่ยน 1,000 ล้านบาท ส่วนกำไรทั้งปีคาด 1.08 หมื่นล้านบาท เติบโต 37%”บล.ฟินันเซียไซรัส

บล.เคทีบี คาดหุ้นปรับขึ้นได้ แต่จะแผ่วลง มองตลาดหุ้นช่วง 2 วันที่ผ่านมาว่าเป็น technical rebound คือราคากลับขึ้นไปหาจุดก่อนที่จะลงแรงในวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา

“ตัวแปรลบที่สำคัญ คือ สงครามการค้าที่ยังระอุอยู่ ด้านราคาน้ำมัน กลับขึ้นไม่ได้ไกล และมีการพูดถึงภาวะเงินเฟ้อหากราคาน้ำมันยังสูงต่อ จะจำกัดการสูงขึ้นของราคาหุ้นกลุ่มน้ำมันตามไปด้วย ซึ่งมองเป็นลบกับตลาด” บล.เคทีบีกล่าว

บล. เอเอสแอล ตลาดทดสอบแนวต้านระดับ 1,630-1,635 หรือการปรับต่ำกว่า 1,622-1,620 คาดจะมีแรงขายทำรอบระยะสั้น ติดตามการคาดการผลประกอบการไตรมาส2 ของกลุ่มธนาคาร คาดทรงตัวหรือปรับลงเล็กน้อย

ส่วนตลาดหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรง 2 วันติดต่อกัน เป็นการกลับตัวขึ้นแรงจากแรงซื้อเก็งกำไรกลับคืนด้านเทคนิค หลังจากสามารถผ่านยืน 1,600 ขึ้นมา ระยะสั้นแนวรับ 1,622 และ 1,608 เป็นจุดพิจารณาหลักของการเล่นรอบเมื่อปรับตัวลงมา จากแรงกดดันนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่อง