BAM เผยกลยุทธ์หนุนกำไรโต รอขายทรัพย์ชิ้นใหญ่ 2-3 ราย

HoonSmart.com>>บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์มั่นใจครึ่งปีหลังโตกว่าครึ่งปีแรก หลังกรมบังคับคดีจัดเปิดขายทอดตลาด บริษัทใช้กลยุทธ์ราคาระบายสินทรัพย์รอการขาย กำลังเจรจารายใหญจบดีล  2-3 ราย ยืนเป้าซื้อหนี้มาบริหาร 1-1.2 หมื่นล้านบาท เน้นคุณภาพ ได้ราคาต่ำแทบไม่ได้รับผลกระทบจากการด้อยค่า รอแบงก์ระบายของล็อตใหญ่ต้นปีหน้า

นายสันธิษณ์ วัฒนกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายสนับสนุนการปฎิบัติการ สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท บริหารสินทรัพย์ กรุงเทพพาณิชย์ (BAM) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการครึ่งปีหลังจะมากกว่าครึ่งปีแรก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเติบโต บริษัทจำเป็นต้องใช้กลยุทธ์หลายอย่าง เช่น การปรับโครงสร้างหนี้ที่มีความยืดหยุนมากขึ้น การใช้กลยุทธ์ราคา สำหรับการขายสินทรัพย์รอการขาย (NPAs) และกรมบังคับคดีเริ่มกลับมาจัดการขายทอดตลาดได้อีกครั้งในไตรมาสที่ 3 ทำให้การบริหารจัดการทำได้ดีขึ้น บริษัทมี NPAs รายใหญ่หลักร้อยล้านบาท อยู่ระหว่างการชำระในไตรมาสที่ 3- 4  แต่ยังไม่สรุปว่าจะเสร็จเมื่อไร

สำหรับการใช้ราคาในการขายทรัพย์เพียงบางส่วน จากทั้งหมด 6 หมื่นล้านบาท ได้รับการตอบรับที่ดี เพื่อให้เงินสดกลับเข้ามาเร็ว ปัจจุบันสถานการณ์ดีขึ้น จากเดิมคาดว่าจะมีผลกระทบจากโควิด 20%

นายสันธิษณ์ กล่าวว่า บริษัทยังคงเป้าหมายการซื้อหนี้เสียในปีนี้ที่ประมาณ 1-1.2 หมื่นล้านบาท ในช่วงครึ่งปีแรกซื้อไปแล้วกว่า 7,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อน แต่ยังตอบชัดไม่ได้จะซื้อถึงเป้าหรือไม่ เพราะให้ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพสินทรัพย์และได้ผลตอบแทนที่ดี ซึ่งยังมีโอกาสอยู่มาก เพราะ NPLs ที่เกิดจากผลกระทบของสถานการณ์แพร่ระบาดของ โควิด-19 ยังไม่ออกมาสู่ตลาดเต็มที่ แนวโน้มจะเพิ่มขึ้นหลังสิ้นสุดมาตรการช่วยเหลือ คาดว่าจะออกมาจำนวนมากในช่วงต้นปี 2564

” NPLs เพิ่มขึ้นจาก 4 แสนล้านบาทเป็น 5 แสนล้านบาทเป็นโอกาสของบริษัท บริหารสินทรัพย์ ซึ่งคู่แข่งของเรายังเหมือนเดิม คนสำคัญคือ SAM (บริษัท บริหารสินทรัพย์สุขุมวิท) ในช่วงไตรมาส 2 ที่ผ่านมา เราได้ราคาประมูลที่ดีกว่าอดีตเล็กน้อย จากราคาหลักประกันลดลง แบงก์จึงตีราคาขายต่ำกว่าเดิม ทำให้พอร์ต 2-3 พอร์ตดีกว่าในอดีต เราได้ทรัพย์มาในราคาที่เหมาะสม เมื่อเทียบกับต้นทุนแล้ว ยังมีส่วนล้ำค่อนข้างมาก จึงแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ “นายสันธิษณ์ กล่าว

ด้านนาย รฐนนท์ ฟูเกียรติ ผู้จัดการกลุ่มนักลงทุนสัมพันธ์  BAM กล่าวว่า บริษัทฯยังไม่มีแผนเพิ่มทุน และนโยบายการจ่ายเงินปันผลปีละ 1 ครั้ง ประมาณเดือนเม.ย. ส่วนการเรียกเก็บเงินสดไตรมาส 2 ดีขึ้นกว่าไตรมาสแรก โดยรวมครึ่งปี ไม่ได้ต่ำกว่าที่คาดไว้อย่างมีนัยสำคัญ ส่วนการลงทุนในครึ่งปี 7,664 ล้านบาท แบ่งเป็น NPLs 6,560 ล้านบาท และ NPAs 1,106 ล้านบาท โดยซื้อตรงจากธนาคารพาณิชย์ ไม่ใช่แปลงจากNPLs

ส่วนช่องทางการจำหน่าย มีการจัดบูธ 2 งาน ขายไป 40 ยูนิต มูลค่ารวม 40 ล้านบาท คาดว่าครึ่งปีหลังจะจัดอีก 10 รายการ แนวโน้มไปได้ดี รวมถึงการทำราคาพิเศษบริษัทคัดทรัพย์ราคาพิเศษ 328 ล้านบาท ขายไป 116 ยูนิต ขายผ่านชอปปี้ (Shopee) 14 ยูนิตในไตรมาส 2 มูลค่า 27 ล้านล้านบาท  โปรโมชั่น 9.9 ที่ผ่านมา วันแรก เพียง 1-2 ชั่วโมง จัดโปรเข้ามาประมาณ 20 ล้านบาท ตลอดทั้งวันเข้ามา 200 กว่าล้านบาท ซึ่งจะต้องทำต่อไปเรื่อยๆ ยังคงดำเนินนโยบายการขยายตลาดในกลุ่มออนไลน์มากขึ้น

สำหรับผลประโยชน์ทางภาษี(DTA) เมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ผู้สอบบัญชีมีการปรับปรุงมูลค่าเล็กน้อย เหลือ 4,935 ล้านบาท ไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงอีกแล้ว บริษัทมีนโยบายรับรู้ภายในปีนี้ให้มากที่สุด

ราคาหุ้น BAM ปรับตัวลงตามภาวะตลาด ซื้อขายที่ 21.40  บาท -0.40 บาทหรือ -1.83% ณ เวลา 16.15 น.