บลจ.บัวหลวงออก “ทริกเกอร์ฟันด์” ลงทุนหุ้นไทยตั้งเป้า 8% ภายใน 1 ปี

HoonSmart.com>> บลจ.บัวหลวง ส่งทริกเกอร์ฟันด์ ลงทุนหุ้นไทย ตั้งเป้าผลตอบแทน 8% ภายใน 12 เดือน มองตลาดผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว หวังโควิด-19 คลี่คลาย กลางปี 64 วัคซีนใช้หนุนตลาดฟื้นตัว

พีรพงศ์ จิระเสวีจินดา

นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม (บลจ.) บัวหลวง จำกัด หรือ กองทุนบัวหลวง เปิดเผยว่า กองทุนบัวหลวง จะเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) กองทุนเปิดบัวหลวงทริกเกอร์ 9-21 หรือ TRIGGER 9-21 เพียงครั้งเดียว ระหว่างวันที่ 14-16 ก.ย.2563 ในราคาหน่วยลงทุนละ 10 บาท กำหนดการซื้อขั้นต่ำ 10,000 บาท โดยมองว่า ตลาดหุ้นไทยกำลังฟื้นตัว หากคัดเลือกลงทุนในหุ้นที่มีแนวโน้มดี ก็มีโอกาสคาดหวังผลตอบแทนที่น่าพอใจได้ จึงออกกองทุนนี้มา พร้อมกำหนดเป้าหมายระยะเวลาการลงทุนไว้ไม่เกิน 12 เดือน เพื่อคาดหวังการแสวงหาผลตอบแทนให้ได้ 8%

“เดือนมีนาคม ที่เริ่มมีสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาดในประเทศไทย ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงไปมาก โดยช่วงสิ้นเดือนมี.ค.2563 ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลดลง 28.7% เมื่อเทียบกับสิ้นปี 2562 หลังจากนั้นก็สามารถปรับตัวขึ้นมาได้ จนกระทั่งสิ้นเดือนมิ.ย.2563 ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปรับลดลงเพียง 15.2% เมื่อเทียบกับสิ้นปีก่อน จากแนวโน้มนี้สะท้อนให้เห็นว่า ตลาดหุ้นน่าจะผ่านจุดต่ำสุดมาเรียบร้อยแล้ว และอยู่ในช่วงฟื้นตัว” นายพีรพงศ์ กล่าว

ทั้งนี้ จากประสบการณ์ในอดีต ตลาดหุ้นไทยเผชิญมาแล้ว ทั้งวิกฤติเศรษฐกิจ การเมือง ภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือโรคระบาด ซึ่งทุกครั้งก็จะผ่านพ้นสถานการณ์เหล่านี้และฟื้นตัวได้ อีกทั้งในวิกฤติ ย่อมมีโอกาสเสมอ ดังนั้น หากเลือกลงทุนในธุรกิจที่ปรับตัวได้ดี หรือมองเห็นโอกาสใหม่ๆ ก็ยังเติบโตได้ในช่วงเวลานี้

ขณะเดียวกันตลาดคาดการณ์ว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 มีแนวโน้มจะคลี่คลายได้ เนื่องจากช่วงกลางปี 2564 น่าจะเริ่มนำวัคซีนป้องกันโควิด-19 ออกมาใช้ อันจะเป็นปัจจัยสำคัญสนับสนุนให้ตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวได้ดี ส่งผลให้ธุรกิจต่างๆ เริ่มดำเนินงานได้มากขึ้น ทั้งเป็นโอกาสในการคัดเลือกลงทุนหุ้นที่ดีเช่นกัน

ดังนั้น หากนักลงทุนต้องการแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น ในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มต่ำไปอีกนาน และมีเงินลงทุนที่ไม่มีความจำเป็นต้องนำออกมาใช้ในระยะเวลา 12 เดือนข้างหน้า ทั้งยังเคยมีประสบการณ์ลงทุนในหุ้นไทยโดยตรง หรือลงทุนผ่านกองทุนหุ้นอยู่แล้ว เข้าใจและยอมรับความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้นได้ ก็สามารถแบ่งเงินส่วนนี้มาลงทุนผ่านกองทุน TRIGGER 9-21 ได้

สำหรับกองทุนนี้เป็นกองทุนรวมผสม ที่ไม่ได้ไปลงทุนในต่างประเทศ โดยตราสารที่เข้าไปลงทุน ได้แก่ ตราสารหนี้ ตราสารกึ่งหนี้กึ่งทุน ตราสารทุน หน่วยลงทุนกองทุนรวม เช่น กองทุน CIS กองทุน Infrastructure กองทุน Property/REITs กองทุน Private Equity และ/หรือกองทุน ETF เป็นต้น ซึ่งผู้จัดการกองทุนจะพิจารณาปรับสัดส่วนการลงทุนตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ โดยกองทุน TRIGGER 9-21 จะเสนอขายครั้งแรกเพียงครั้งเดียว จากนั้นนักลงทุนจะต้องถือหน่วยลงทุนจนกระทั่งเลิกกองทุน

กองทุนนี้ มีอายุประมาณ 12 เดือน นับจากวันจดทะเบียนกองทรัพย์สิน ซึ่งบริษัทจะเลิกกองทุนเมื่อครบอายุโครงการ หรือในวันทำการที่ 1 ถัดจากวันที่ครบเงื่อนไขทั้งหมด คือ มีมูลค่าหน่วยลงทุนไม่ต่ำกว่า 10.95 บาท เป็นเวลา 2 วันทำการติดต่อกัน มูลค่าหน่วยลงทุนที่จะรับซื้อคืนโดยอัตโนมัติ ต้องไม่ต่ำกว่า 10.80 บาท และทรัพย์สินของกองทุนเป็นเงินสดหรือเงินฝากธนาคารทั้งหมด

ในกรณีที่กองทุนอายุครบ 12 เดือน กองทุนจะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติในวันทำการก่อนวันเลิกกองทุน ณ ราคารับซื้อคืนหน่วยลงทุน (ราคา NAV) โดยเงินที่ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับคืน จะเป็นไปตามการบริหารกองทุนในระยะเวลา 12 เดือน ซึ่งอาจมากกว่าหรือน้อยกว่า 10 บาทก็ได้