ได้เวลาเลือกช้อปหุ้นถูก เน้นการเงิน-พลังงาน

HoonSmart.com>>หุ้นไทยแสดงอภินิหาร ร่วงลงไปต่ำสุด -17.42 จุด ได้แรงซื้อหุ้นใหญ่กลับดึงตลาดกลับมาเขียวก่อนปิดลบแค่ 0.40 จุด นำโดย กลุ่มการเงิน ลิสซิ่ง ธนาคาร พลังงานบางตัว จากราคาลงไปต่ำมาก นักวิเคราะห์เตือนตลาดยังมีความเสี่ยงจากหลายปัจจัย ส่วนกลุ่มโรงแรม บล.ทิสโก้เตือนราคาขึ้นมาเร็วเกินไป

ตลาดหุ้นวันที่ 9 ก.ย. 2563 ดีเกินคาด ช่วงเช้านักลงทุนทำใจมาจากบ้าน ราคาหุ้นแดงเถือกแน่ ตามตลาดหุ้นสหรัฐ ดาวโจนส์ดิ่งกว่า 600 จุด ฉุดหุ้นเอเชียลดลงกว่า 1% ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ลงไปลึก หลุด 40 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลในรอบ 3 เดือน ทำให้ดัชนีลงไปต่ำสุดที่ 1,276.38 จุด ลดฮวบกว่า 17 จุด ระหว่างวันเด้งกลับขึ้นไปบวกได้ที่ระดับ 1,295.55 จุด ก่อนปิดที่ 1,293.40 จุด-0.40 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง 47,500 ล้านบาท

นักลงทุนแต่ละกลุ่มไม่กล้าปรับพอร์ตมาก โดยต่างชาติขาย  812 ล้านบาท ตามด้วยสถาบัน 73 ล้านบาท ส่วนรายย่อยซื้อสุทธิ 801 ล้านบาท

หุ้นนำตลาดเป็นกลุ่มการเงิน  SAWAD บวกแรงกว่า 9% หรือ 4 บาท ปิดที่ 48.25 บาท  MTC เพิ่มขึ้น 4.64% ปิดที่ 50.75 บาท+2.25 บาท ส่วนธนาคารขนาดใหญ่  KBANK ปิดที่ 82.75 บาท +1.25 บาทหรือ 1.53% BBL ปิดที่ 107.50 บาท  +1.50 บาทหรือ 1.42% ขณะที่ SCB ลดลง 1.04 % ปิดที่ 71.50 บาท-0.75บาท
สำหรับพลังงาน เช่น TOP เปิดที่ระดับต่ำสุด 37 บาทก่อนเด้งขึ้นไป 39 บาท ปิดที่ 38.75 บาท+1 บาทหรือ 2.65%

นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน- วิเคราะห์เทคนิค บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นฟื้นตัวกลับมาได้จากแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นรายกลุ่มในภาคบ่าย ได้แก่ กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ คอนซูเมอร์ไฟแนนซ์และกลุ่มสถาบันการเงิน ส่งผลให้ดัชนีกลับมาปิดลบเพียงเล็กน้อย ขณะที่ตลาดหุ้นภูมิภาคทรงตัว

“ตลาดยังถูกกดดันจากปัจจัยลบต่างประเทศ ทั้งเรื่องของวัคซีนที่ล่าช้า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ กับจีน จึงมองแรงซื้อกลับเข้ามาเลือกซื้อรายตัว รายกลุ่มหลังจากดัชนีปรับตัวลงไปลึกแถวแนวรับ 1,275 จุด และค่อยๆ ปรับตัวขึ้น  โดยมองแนวรับวันพรุ่งนี้ 1,277 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,300-1,306 จุด”นายคณฆัส กล่าว

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่าหุ้นลงไปทดสอบแนวรับสำคัญบริเวณ 1,280 จุด ก่อนจะมีแรงดีดกลับขึ้นทางเทคนิค สะท้อนข่าวเชิงลบในช่วงเช้าไปมากพอสมควรแล้ว

“ถ้ายังไม่มีประเด็นหนุนตลาด เช่นความคืบหน้าของวัคซีน เราจะเห็นภาพของตลาดในลักษณะแบบนี้ คือลงมาทดสอบแนวรับสำคัญเชิงเทคนิคที่บริเวณ 1,270-1,280 จุด และจะรีบาวด์ยืนเหนือแนวรับเชิงเทคนิคตลอด” นายวิจิตร กล่าว

แนวโน้มตลาดวันพรุ่งนี้ (10 ก.ย.) คาดว่า ดัชนีจะพักตัวแบบแกว่งตัวออกข้าง โดยมีแนวรับที่ 1,280 และแนวต้านที่ 1,320 จุด ถ้าหากดัชนีจะสามารถปรับขึ้นทดสอบ 1,300 จุด จะต้องคาดหวังข่าวเชิงบวกเข้ามาช่วยหนุนตลาดหุ้นต่อไป

ด้านกลยุทธ์การลงทุนแแนะนำหุ้นพื้นฐานดี ได้แก่ TASCO ที่ราคา 30 บาท จากต้นทุนที่ต่ำลง และยอดขายดีขึ้น และ AUCT ที่ราคา 16.70 บาท ได้ประโยชน์ในช่วงภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ

บล.ทรีนีตี้วิคราะห์ว่า Saudi Aramco ปรับลดราคาขายน้ำมันดิบ ส่งสัญญาณความต้องการใช้ลดลงเป็นผลลบต่อ PTTEP ทำให้ราคาขายลดลง และระยะสั้นส่งผลบวกต่อกลุ่ม โรงกลั่นและปิโตรเคมีที่ต้นทุนลดลง จึงแนะนำถือ PTTEP ราคาเป้าหมาย 90 บาท ถือ TOP เป้าหมาย 42 บาท IRPC 2.50 บาท SCC 380 บาท แต่ให้ขาย PTTGC เป้าหมาย 39 บาท

ด้านหุ้นลิสซิ่งนำโดย SAWAD และ MTC ปรับตัวขึ้นแรงนำตลาด ส่วนหนึ่งเนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลงไปมาก โดยพื้นฐานไม่ได้รับผลกระทบจากโควิดระบาดมากนัก สินเชื่อและกำไรยังคงเติบโตตามเป้าหมาย
ส่วนธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ แม้ว่าจะมีกำไรลดลงในการช่วยเหลือลูกหนี้ แต่ราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมามาก พิจารณาจากราคาซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชีและสัดส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น(P/E) จึงเป็นที่สนใจของนักลงทุน

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ระบุว่า ในช่วงที่เหลือของปี 2563 เศรษฐกิจยังมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง หลังจากเศรษฐกิจโลกเริ่มเสีย momentum การฟื้นตัว หลังเกิดการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกสองในหลายประเทศที่เป็นคู่ค้าสำคัญ ขณะเดียวกันภาคส่งออกและการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติยังมีอุปสรรคอยู่มาก โดยรวมทั้งปี 2563 กกร. คงคาดการณ์เศรษฐกิจอาจหดตัวในกรอบ -9.0% ถึง -7.0% ส่งออกอาจจะหดตัวในกรอบ -12.0% ถึง -10.0% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปคาดว่าอยู่ในกรอบ -1.5% ถึง -1.0%

ด้านนายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย (TMB) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 3 และ 4 ธนาคารยังคงมีแผนการตัดขาย NPLs ออกไปเฉลี่ยไตรมาสละ 2,000 ล้านบาท เพื่อควบคุม NPLs สิ้นปีนี้ให้ไม่เกิน 3% จากครึ่งปีแรกที่ 2.4% แม้ว่าจะยังเห็นแนวโน้มเพิ่มขึ้นชัดเจนในขณะนี้ก็ตาม

” ธนาคารตัดขาย NPLs ออกไปจะช่วยลดภาระการตั้งสำรองฯ ไม่ให้สูงมากเกินไป ส่งผลกระทบต่อกำไรของธนาคารไม่มากนัก”นายปิติกล่าว

บล.ทิสโก้วิเคราะห์หุ้นโรงแรม ลดน้ำหนักการลงทุน เพราะราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นเร็วเกินไป โดยคงมีมุมมองเชิงลบ บริษัทยังขาดทุนต่ออีกหลายไตรมาส แนะนำ”ขาย” AWC และ ERW โดยมีมูลค่าที่เหมาะสม 3.20 บาท และ 2.60 บาทตามลำดับ จากมีความเสี่ยงจากการพึ่งพาลูกค้าต่างชาติในกรุงเทพฯ ส่วน MINT ขาดทุนต่อเนื่องอีกหลายไตรมาส และ CENTEL จะได้ประโยชน์จากการดำเนินงานของร้านอาหารที่กลับมากำไร