ดาวโจนส์ปิดลบ 60 จุด กังวลแนวโน้มเศรษฐกิจ

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดลบ 60 จุด กังวลแนวโน้มเศรษฐกิจ นักลงทุนเกาะติดพายุเฮอริเคนลอร่า ด้านตลาดหุ้นยุโรปร่วงยกแผง ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 25 สิงหาคม 2563 ที่ 28,248.44 จุด ลดลง 60.02 จุด หรือ 0.21% แต่ดัชนี S&P 500 และ ดัชนี Nasdaq ต่างปิดที่นิวไฮอีกครั้งจากแรงซื้อในกลุ่มบริการสื่อสาร เฮลธ์แคร์และสินค้าอุปโภคบริโภค ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจที่ยังมีทิศทางผสมกัน

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,443.62 จุด เพิ่มขึ้น 12.34 จุด, +0.36%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,466.47 จุด เพิ่มขึ้น 86.75 จุด หรือ +0.76%

นักลงทุนยังรับข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯกับจีนที่การยืนยันความมุ่งมั่นในข้อตกลงการค้าระยะแรกระหว่างกัน แม้ยังคงมีความตึงเครียดระหว่างสองฝ่าย แต่ความหวังที่มีการฟื้นตัวของเศรษฐกิจกับลดลง จากข้อมูลความเชื่อมั่นผู้บริโภคล่าสุด

Conference Board เผย ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนสิงหาคมลดลงสู่ระดับ 84.8 จากระดับ 91.7 ในเดือนกรกฎาคม และต่ำกว่า 93.0 นักวิเคราะห์ที่คาด

นักวิเคราห์จากออกซ์ฟอร์ดอิโคโนมิกส์ ระบุว่า ครัวเรือนกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจมากขึ้นซึ่งอาจจะมีผลให้ชะลอการใช้จ่าย

แต่เอสแอนด์พี คอร์โลจิก เคส ชิลเลอร์เผยผลสำรวจ ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศเดือนมิถุนายนเพิ่มขึ้น 4.3% จากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว และกระทรวงพาณิชย์รายงาน ยอดขายบ้านใหม่เดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 13.9% สู่ระดับ 901,000 ยูนิต สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2006 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 785,000 ยูนิต และเพิ่มขึ้น 36% จากระยะเดียวกันของปีก่อน

เอสแอนด์พีคอร์โลจิสเคส-ชิลเลอร์เผยดัชนีราคาบ้านเดือนมิถุนายนใน 20 เมืองเพิ่มขึ้น 3.5% จากระยะเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงจาก 3% ในเดือนก่อน
แรงหนุนในตลาดส่วนหนึ่งมาจากการสนทนาทางโทรศัพท์ระหว่างนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีนกับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯและนายสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ซึ่งจีนระบุการสนทนาเป็นไปอย่างสร้างสรรค์ ขณะที่สหรัฐฯระบุว่าทั้งสองฝ่ายมีความคืบหน้าและมุ่งมุ่นที่จะดำเนินการขั้นต่อไปเพื่อมห้ข้อตกลงบรรลุประสบความสำเร็จ

นักลงทุนยังเกาะติดสถานการณ์การเกิดพายุเฮอริเคนลอร่า ที่อาจจะมีผลกระทบ เพราะมีการสั่งการให้ประชาขน 345,000 รายอพยพออกนอกพื้นที่

หุ้นเอ็กซอน โมบิล ลดลง 3.2% หุ้นไฟเซอร์ ลดลง 1.1% และหุ้นเรย์เธียน เทคโนโลยีส์ ลดลง 1.5% หลังจาก S&P Dow Jones Indices LLC ผู้จัดทำดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ประกาศว่า หุ้นของทั้ง 3 บริษัท จะถูกถอดออกจากคำนวณในดัชนีดาวโจนส์ ตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคมนี้ และนำหุ้นเซลส์ฟอร์ซดอทคอม, แอมเจน อิงค์ และฮันนีเวลล์ อินเตอร์เนชันแนลมาแทน

การถอดหุ้นทั้ง 3 ตัวเป็นการปรับน้ำหนักหุ้นในดัชนีดาวโจนส์มีขึ้นหลังจากบริษัทแอปเปิล อิงค์ซึ่งมีน้ำหนักในดัชนีดาวโจนส์ประมาณ 12% ได้ประกาศแตกหุ้น
หุ้นเซลส์ฟอร์ซดอทคอมเพิ่มขึ้น 3.73% หุ้นแอมเจน อิงค์ เพิ่มขึ้น5.37% หุ้นฮันนีเวลล์ อินเตอร์เนชันแนล เพิ่มขึ้น 3.24%

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง นำโดยกลุ่มน้ำมันและก๊าซ ลดลง 1.3% แต่กลุ่มเดินทางเพิ่มขึ้น1.5% จากที่ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงแรกจากข่าวการสนทนาระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่ยังยืนยันความมุ่งมั่นในข้อตกลงการค้าระยะแรกระหว่างกัน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 369.75 จุด ลดลง 1.10 จุด , -0.30%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,037.01 จุด ลดลง 67.72 จุด, -1.11%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,008.27 จุด เพิ่มขึ้น 0.38 จุด, +0.01%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,061.62 จุด ลดลง 4.92 จุด, -0.04%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 73 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 43.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 73 เซนต์ หรือ 1.6% ปิดที่ 45.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม

อ่านข่าว

ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น พายุถล่มอ่าวเม็กซิโก