“สินเชื่อ-เงินฝาก”ก.ค.โต KKP-SCB หนุนเงินกู้เพิ่ม

HoonSmart.com>>ธนาคารพาณิชย์ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจในเดือนก.ค. 9 แบงก์ ปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นกว่า 2.3 หมื่นล้านบาท โต 0.22% จากเดือนก่อน เกียรตินาคินขยายตัว 2.21% ไทยพาณิชย์อัดฉีดเพิ่ม 2 หมื่นล้านบาท ส่วนเงินฝากยังไหลเข้ามากกว่า 2.33 แสนล้านบาท โต 1.87% กรุงศรีฯมากสุด 9.5 หมื่นล้านบาท ด้านหุ้นแบงก์กสิกรไทยร่วง 2.63% นักลงทุนผวา นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังสัมภาษณ์เรื่องธนาคารกำลังจะล้มละลาย อย่างน้อย 3 แห่ง ส่วนธปท.ออกมาโต้ ฐานะการเงินระบบธนาคารแข็งแกร่ง

 

ธนาคารพาณิชย์รายงานข้อมูล ธ.พ. 1.1 ณ วันที่ 31 ก.ค. 2563 พบว่า ธนาคาร 9 แห่ง มียอดสินเชื่อคงค้าง 12,738,832 ล้านบาท เติบโต 23,681 ล้านบาท คิดเป็น 0.22%จากเดือนมิ.ย.2563 ส่วนเงินฝากคงค้างทั้งสิ้น 10,988,964 ล้านบาท ยังคงขยายตัว 1.87%เท่ากับ 233,494 ล้านบาท

ธนาคารเกียรตินาคิน ขยายสินเชื่อมากที่สุด 2.21% จำนวน 5,401 ล้านบาท  ตามด้วยธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เติบโต 1.03% คิดเป็นเม็ดเงิน 20,943 ล้านบาท ส่วนธนาคารซีไอเอ็มบีไทย(CIMBT) สินเชื่อลดลง 1.23% จำนวน 2,807 ล้านบาท

ทางด้านเงินฝาก ธนาคารกรุงศรีอยุธยา(BAY) เติบโตมากที่สุด 5.80% มีเงินไหลเข้ามากถึง 95,061 ล้านบาท SCB เงินฝากขยายตัว 3.44% จำนวน 77,420 ล้านบาท และธนาคารกรุงไทย โต 2.955 จำนวน 69,492 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารกสิกรไทย(KBANK) เงินฝากลดลง 0.56% เท่ากับ 13,002 ล้านบาท และธนาคารกรุงเทพ (BBL) ลดลง 0.35% จำนวน 8,871 ล้านบาท

ด้านการซื้อขายหุ้น วันที่ 24 ส.ค. 2563 หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวลง นำโดยหุ้น KBANK ลงไปต่ำสุดแตะ 83 บาท ก่อนขึ้นมาซื้อบริเวณ 83.25 บาท -2.25 บาทหรือ-2.63% ด้วยมูลค่าการซื้อขายมากถึง 2,251 ล้านบาท  SCB ลงไปแตะ 69.25 บาท ก่อนฟื้นขึ้นมาปิดที่ 70.50 บาท ลบ 0.50 บาท และ BBL ลงไปต่ำสุด 102.50 บาท ดีดขึ้นมาปิดที่  105 บาท +1 บาท ขณะที่ดัชนีหุ้นโดยรวมปรับตัวขึ้น 17.85 จุดหรือ 1.37% ปิดที่ 1,317.11 จุด

หุ้นแบงก์ โดยเฉพาะ KBANK ได้รับผลกระทบจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจารย์รังสรรค์ ธนะพรพันธุ๋ ศาสตราภิชาน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง กล่าวว่า เวลานี้ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งกำลังจะล้มละลาย อย่างน้อย 3 ธนาคาร

“ตอนแรกที่ผมเห็นนายธนาคารคนหนึ่งลาออก ซึ่งเป็นธนาคารที่เป็นมรดกของเขาเอง ผมก็ไปถาม วีรพงษ์ รามางกูร (อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง) ว่าทำไมเขาจึงลาออก วีรพงษ์บอกให้ผมไปอ่าน financial statement จะเห็นเลยว่าหนี้เสียเยอะมาก และคนที่มาซื้อต่อนี่ก็เซ่อ ซื้อโดยไม่ดู financial statement จึงไม่รู้ว่าธนาคารนี้มีหนี้เสียเยอะ และถ้าวิกฤติยืดเยื้อไป 5 ปี เราจะมีวิกฤตการณ์สถาบันการเงินครั้งใหญ่ อันนี้เป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต” อาจารย์รังสรรค์กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2563 ที่ผ่านมา นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงว่า ตามที่มีนักเศรษฐศาสตร์ท่านหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์ว่า ธนาคารพาณิชย์ไทยกำลังจะประสบปัญหาจากภาวะเศรษฐกิจ

ธปท. ขอยืนยันว่าฐานะการดำเนินงานและเงินกองทุนของธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งยังมีความแข็งแกร่งและสามารถรองรับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดจากโควิด 19 ได้ดี โดยตั้งแต่ต้นปี 2563 ระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินสำรองส่วนเกินอยู่มากจากนโยบายการกันสำรองอย่างเข้มงวดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดย ณ สิ้นเดือนมิ.ย. 2563 อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS ratio) อยู่ที่ระดับสูงถึง 19.2% และผลประกอบการยังมีกำไร รวมทั้งสภาพคล่องในระบบการเงินและระบบธนาคารพาณิชย์ยังมีสูงมากด้วย

นอกจากนั้น จากการให้ธนาคารพาณิชย์จัดทำประมาณการฐานะและการดำเนินงานภายใต้ภาวะวิกฤติ (stress test) พบว่า ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งมีระดับเงินกองทุนสูง สามารถรองรับภาวะวิกฤติในระดับที่รุนแรงได้ ในขณะที่ภาครัฐและ ธปท. ได้ออกมาตรการช่วยเหลือเยียวยาได้อย่างรวดเร็ว ทั้งมาตรการการเงินและการคลังตั้งแต่เกิดปัญหาโควิด 19 ทำให้ช่วยบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนและธุรกิจได้มาก และประชาชนและธุรกิจจำนวนมากยังสามารถจ่ายชำระหนี้ได้ตามปกติ

ขณะนี้ ธปท. และสถาบันการเงินทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด  ธปท. ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า ระบบธนาคารพาณิชย์ของไทยยังมีความแข็งแกร่งและสามารถรองรับผลกระทบด้านเศรษฐกิจที่เกิดจากโควิด 19 ได้ดี