แบงก์ร่วง ตื่นข่าวล้มละลาย KBANK ดิ่ง เฉียด 3%

HoonSmart.com>>กลุ่มแบงก์ปรับตัวลงสวนทางตลาดบวก แรงขายพุ่งเป้า KBANK  ทุบราคาลงไปต่ำสุด 83 บาท หลังจากนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง ออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องธนาคารกำลังจะล้มละลาย อย่างน้อย 3 แห่ง ตลาดไม่สนใจ ธปท.ออกมาโต้ ฐานะการเงินระบบธนาคารแข็งแกร่ง

วันที่ 24 ส.ค. หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวลง นำโดยธนาคารกสิกรไทย(KBANK) ลงไปต่ำสุดแตะ 83 บาท ก่อนขึ้นมาซื้อบริเวณ 83.25 บาท -2.25 บาทหรือ-2.63% ด้วยมูลค่าการซื้อขายมากถึง 1,328 ล้านบาท ณ เวลา 11.56 น. ตามด้วย ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ลบ 1 บาท อยู่ที่ 70 บาท และธนาคารกรุงเทพ(BBL) -0.50 บาท อยู่ที่ 103.50 บาท สวนทางกับความเคลื่อนไหวของตลาดโดยรวม ดัชนีเพิ่มขึ้น 6 จุด

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อาจารย์รังสรรค์ ธนะพรพันธุ๋ ศาสตราภิชาน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง กล่าวว่า เวลานี้ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งกำลังจะล้มละลาย อย่างน้อย 3 ธนาคาร

“ตอนแรกที่ผมเห็นนายธนาคารคนหนึ่งลาออก ซึ่งเป็นธนาคารที่เป็นมรดกของเขาเอง ผมก็ไปถาม วีรพงษ์ รามางกูร (อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง) ว่าทำไมเขาจึงลาออก วีรพงษ์บอกให้ผมไปอ่าน financial statement จะเห็นเลยว่าหนี้เสียเยอะมาก และคนที่มาซื้อต่อนี่ก็เซ่อ ซื้อโดยไม่ดู financial statement จึงไม่รู้ว่าธนาคารนี้มีหนี้เสียเยอะ และถ้าวิกฤติยืดเยื้อไป 5 ปี เราจะมีวิกฤตการณ์สถาบันการเงินครั้งใหญ่ อันนี้เป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต” อาจารย์รังสรรค์กล่าว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2563 ที่ผ่านมา นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงว่า ตามที่มีนักเศรษฐศาสตร์ท่านหนึ่งได้ให้สัมภาษณ์ว่า ธนาคารพาณิชย์ไทยกำลังจะประสบปัญหาจากภาวะเศรษฐกิจ

ธปท. ขอยืนยันว่าฐานะการดำเนินงานและเงินกองทุนของธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งยังมีความแข็งแกร่งและสามารถรองรับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดจากโควิด 19 ได้ดี โดยตั้งแต่ต้นปี 2563 ระบบธนาคารพาณิชย์มีเงินสำรองส่วนเกินอยู่มากจากนโยบายการกันสำรองอย่างเข้มงวดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดย ณ สิ้นเดือนมิ.ย. 2563 อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS ratio) อยู่ที่ระดับสูงถึง 19.2% และผลประกอบการยังมีกำไร รวมทั้งสภาพคล่องในระบบการเงินและระบบธนาคารพาณิชย์ยังมีสูงมากด้วย

นอกจากนั้น จากการให้ธนาคารพาณิชย์จัดทำประมาณการฐานะและการดำเนินงานภายใต้ภาวะวิกฤติ (stress test) พบว่า ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งมีระดับเงินกองทุนสูง สามารถรองรับภาวะวิกฤติในระดับที่รุนแรงได้ ในขณะที่ภาครัฐและ ธปท. ได้ออกมาตรการช่วยเหลือเยียวยาได้อย่างรวดเร็ว ทั้งมาตรการการเงินและการคลังตั้งแต่เกิดปัญหาโควิด 19 ทำให้ช่วยบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนและธุรกิจได้มาก และประชาชนและธุรกิจจำนวนมากยังสามารถจ่ายชำระหนี้ได้ตามปกติ

ขณะนี้ ธปท. และสถาบันการเงินทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด  ธปท. ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า ระบบธนาคารพาณิชย์ของไทยยังมีความแข็งแกร่งและสามารถรองรับผลกระทบด้านเศรษฐกิจที่เกิดจากโควิด 19 ได้ดี