HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 190 จุด รับข้อมูลเศรษฐกิจหนุน ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและบริการออกมาดีกว่าที่คาด ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น ด้านตลาดหุ้นยุโรปร่วงยกแผง ดัชนี PMI ต่ำกว่าคาด ราคาน้ำมันดิบร่วง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 21สิงหาคม 2563 ที่ 27,930.33 จุด เพิ่มขึ้น 190.60 จุด หรือ 0.69% ข้อมูลเศรษฐกิจหนุนแต่ปริมาณการซื้อขายเบาบาง เพราะการปรับขึ้นส่วนใหญ่ยังมาจากหุ้นเทคเทคโนโลยีขนาดใหญ่ไม่กี่ตัว
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,397.16 จุด เพิ่มขึ้น 11.65 จุด, +0.34%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,311.80 จุด เพิ่มขึ้น 46.85 จุด, +0.42%
ในสัปดาห์นี้ ดัชนี S&P 500 ปรับขึ้น 0.7% ดัชนี Nasdaq ปรับขึ้น 2.7% แต่ดัชนี DJIA ไม่เปลี่ยนแปลง
นักวิเคราะห์ระบุว่า ตลาดได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาในทางบวก หลังจากไอเอชเอส มาร์กิต เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือนสิงหาคมดีกว่าที่คาด เพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 54.7 สูงสุดในรอบ 18 เดือน จากระดับ 50.3 ในเดือนกรกฎาคม ส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตเพิ่มขึ้นมาที่ 53.6 สูงสุดในรอบ 19 เดือนจาก 50.9 ในเดือนกรกฎาคม และดัชนี PMI ภาคบริการเพิ่มขึ้นมาที่ 54.8 สูงสุดในรอบ 17 เดือนจาก 50ในเดือนกรกฎาคม
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติ (NAR) เผย ยอดขายบ้านมือสองเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 24.7% เป็นการปรับตัวติดต่อกันเดือนที่สองเมื่อเทียบจากปีก่อน ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 8.7% และราคาขายบ้านเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาที่ระดับสูงสุดใหม่ที่ 304,100 ดอลลาร์
อย่างไรก็ตามการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ที่ยังตกลงกันไม่ได้ระหว่างสภาคองเกรสกับทำเนียบขาว มีผลต่อปริมาณการซื้อขาย
แต่ข่าวดีจากการคิดค้นและพัฒนาวัคซีนส่งผลให้กลุ่มเฮลธ์แคร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยหุ้นไฟเซอร์ อิ้คง์เพิ่มขึ้น 0.41% หุ้น BioNTech เพิ่มขึ้น 10.18% หุ้นจอห์นสันแอนด์จอห์นสันเพิ่มขึ้น 0.88%
หุ้นแอปเปิลเพิ่มขึ้น 5.15%
หุ้น Deere & Co พุ่งขึ้น 4.40% หลังปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการทั้งปี
หุ้นเชฟรอนเพิ่มขึ้น 0.31% หุ้นเอ็กซอนโมบิลลดลง 0.75% หลังราคาน้ำมันดิบลดลง
นักลงทุนยังเกาะติดสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯหลังจีนหลังรอยเตอร์สรายงานว่า สหรัฐฯยังไม่ยืนยันที่ประชุมเพื่อทบทวนข้อตกลงการค้าระยะแรกกับจีน นอกจากนี้ยังมองว่าแม้โจ ไบเดนจะได้รับการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน แต่ก็จะไม่ช่วยบรรเทาความตึงเครียดให้ลดลง แต่อาจจะกดดันจีนด้านสิทธิมนุษยชนมากขึ้น
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ไม่สดใสส่งผลต่อความหวังการฟื้นตัวแบบ V-shape ของเศรษฐกิจและจากสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือนสิงหาคมลดลงมาที่ระดับ 51.6 จากระดับ 54.9 ในเดือนกรกฎาคม ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาด
ส่วนดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของอังกฤษเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 60.3 จาก 57.1 ที่คาด เพิ่มขึ้นจาก 57.0 ในเดือนกรกฎาคม
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 365.09 จุด ลดลง 0.55 จุด , -0.15%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,001.89 จุด ลดลง 11.45 จุด, -0.19%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,896.33 จุด ลดลง 14.91 จุด, -0.30%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,764.80 จุด ลดลง 65.20 จุด, -0.51%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายนลดลง 48 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 42.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 55 เซนต์ หรือ 1.2%, ปิดที่ 44.35 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อ่านข่าว
บล.กสิกรฯ ให้แนวรับแรก 1,280 ลุ้นส่งออกไทยเดือนก.ค.-GDP สหรัฐ