HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดบวกเล็กน้อยกว่า 40 จุด ตัวเลขยื่นรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นสูงกว่าคาด นักลงทุนกังวลการฟื้นตัวเศรษฐกิจ ด้านตลาดหุ้นยุโรปร่วงยกแผง ราคาน้ำมันดิบลดลง
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 20 สิงหาคม 2563 ที่ 27,739.73 จุด เพิ่มขึ้น 46.85 จุด หรือ 0.17% หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจ 2 ชุดทำให้เกิดความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในวงกว้าง และนักลงทุนหันไปซื้อหุ้นใหญ่ในธุรกิจเทคโนโลยีและอี-คอมเมิร์ซที่มองว่ามีความปลอดภัยจากการลงทุน ส่งผลให้ดัชนี Nasdaq ทำนิวไฮเป็นครั้งที่ 35 ในปีนี้
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,385.51 จุด เพิ่มขึ้น 10.66 จุด, +0.32%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,264.95 จุด เพิ่มขึ้น 118.49 จุด, +1.06%
แรงซื้อในตลาดที่นำโดยกลุ่มเทคโนโลยีรวมทั้งกลุ่มบริการสื่อสาร และสินค้าอุปโภคบริโภค มีขึ้นหลังจากข้อมูลการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้นเกินกว่า 1 ล้านรายสวนทางจากที่คาดว่าจะต่ำกว่า 1 ล้านรายเป็นสัปดาห์ที่สอง โดยการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงาน ณ วันที่ 15 สิงหาคมมีจำนวน 1.106 ล้านราย อย่างไรก็ตามการยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง(การรับสวัสดิการติดต่อกัน 2 สัปดาห์)ลดลง 636,000 รายมาที่ 14.844 ล้านราย
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เผยดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกเดือนสิงหาคมลดลงมาที่ระดับ 17.2 จาก 24.1 ในเดือนกรกฎาคม และต่ำกว่า 21.0 ที่นักวิเคราะห์คาด ขณะที่ Conference Board เผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจ Leading Economic Index (LEI)เดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 1.4% เป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 จากที่เพิ่มขึ้น 3% ในเดือนมิถุนายนและพฤษภาคมแม้เพิ่มขึ้นในอัตราชะลอตัว
ในช่วงแรกตลาดได้รับแรงกดดันจากการที่ไม่มีความคืบหน้าของการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่จากสภาคองเกรส รวมทั้งรายงานการประชุมเดือนกรกฎาคมของธนาคารกลาง(เฟด)ที่บ่งชี้ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ
นักวิเคราะห์จากสเตทสตรีต โกลบอลแอดไวเซอร์ ระบุว่า หากไม่มีมาตรการการเคลังและการเงินเพิ่มเติม ตลาดจะปรับตัวขึ้นได้ยากเพราะตลาดแรงงานยังไม่ฟื้นอย่างที่คาด
นักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮลในวันที่ 27-28 สิงหาคม ขณะที่เมื่อวานนี้นายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนยืนยันการกลับมาเจรจากับสหรัฐฯเพื่อทบทวนข้อตกลงการค้าระยะแรก
หุ้นแอปเปิลเพิ่มขึ้น 2.22% หุ้นเฟซบุ๊กเพิ่มขึ้น 2.44% หุ้นแอมะซอนเพิ่มขึ้น 1.13% หุ้นไมโครซอฟต์เพิ่มขึ้น 2.33% หุ้นอัลฟาเบทเพิ่มขึ้น 2.05%
หุ้นอินเทล เพิ่มขึ้น 1.7% หลังประกาศแผนการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้
ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงจากรายงานการประชุมวันที่ 28-29 กรกฎาคมของคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ที่เผยแพร่หลังตลาดปิด ซึ่งสะท้อนถึงความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯและบ่งชี้ถึงความจำเป็นของการมีมาตรการกระตุ้นเพิ่มเติม โดยกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานลดลง 2.9%
นักลงทุนไม่ขานรับการประกาศของกระทรวงพาณิชย์จีนที่ยืนยันการกลับมาเจรจากับสหรัฐฯเพื่อทบทวนข้อตกลงการค้าระยะแรก ขณะเดียวกันที่ปรึกษาเศรษฐกิจทำเนียบขาวนายลาร์รี่ คุดโลว์ให้สัมภาษณ์ซีเอ็นบีซีว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่อยากให้จีนเข้ามามีส่วนในเงินที่ได้จากการขายTikTok แม้ยอมรับว่าการที่กระทรวงการคลังจะได้รับเงินจากการขายเป็นเรื่องไม่ปกติ
นอกจากนี้สถานการณ์การเทืองระหว่างประเทศยังตึงเครียดหลังนายไมก์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯเตือนรัสเซีนและจีนไม่ได้เข้ามาแทรกแซงในการที่สหประชาชาติกลับไปใช้มาตรการคว่ำบาตรกับอิหร่านอีกครั้ง
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 365.64 จุด ลดลง 3.94 จุด , -1.07%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,013.34 จุด ลดลง 98.64 จุด, -1.61%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,911.24 จุด ลดลง 65.99 จุด, -1.33%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,830.00 จุด ลดลง 147.33 จุด, -1.14%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายนลดลง 35 เซนต์ปิดที่ 42.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 47 เซนต์ปิดที่ 44.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
อ่านข่าว
ราคาน้ำมันดิบร่วง โอเปกพลัสผลิตเกินข้อตกลง-ว่างงานสหรัฐฯ พุ่ง