“สุพัฒนพงษ์”ปรับไส้ในก่อนเดินหน้า โรงไฟฟ้าชุมชน-โซลาร์ประชาชน

HoonSmart.com>>รมว.พลังงานคนใหม่ “พัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ “ลั่นสานต่อนโยบายเดิม เน้นกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างงาน สร้างรายได้ วางรากฐานเพื่ออนาคตด้านพลังงานของประเทศ ยกโรงไฟฟ้าชุมชน เดินหน้าที่จะเปิดรับซื้อไฟฟ้า สั่งศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมใน 30 วัน เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนมากที่สุด

นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พลังงาน  ร่วมประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ “พลังงานร่วมใจ รวมไทยสร้างชาติ”  ว่าการดำเนินงานด้านพลังงานส่วนใหญ่ยังคงสานต่อนโยบายเดิม  แต่จะเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจ การสร้างงานสร้างรายได้ รวมถึงการวางรากฐาน เพื่ออนาคตด้านพลังงานของประเทศ โดยเฉพาะ โรงไฟฟ้าชุมชน เพื่อเศรษฐกิจฐานราก ยังเดินหน้าที่จะเปิดรับซื้อไฟฟ้า แต่ให้ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมใน 30 วัน เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนมากที่สุด คงไม่ล่าช้า ปีหน้าก็เริ่มได้

ส่วนการรับซื้อไฟฟ้าประเภท Quick win จะยังอยู่ในกรอบ 100-200 เมกะวัตต์ (MW) หรือไม่นั้น ต้องรอผลการศึกษาออกมาก่อน แต่เบื้องต้นคาดว่าจะเปิดรับซื้อไฟฟ้าได้ในปลายปีนี้ และเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในปี 2564

สำหรับโซลาร์ภาคประชาชนให้พิจารณาว่าจะปรับเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้าจากระดับ 1.68 บาท/หน่วยได้หรือไม่ เพื่อจูงใจให้ภาคประชาชนมีความสนใจเข้าร่วมโครงการมากขึ้น และผลักดันให้เกิดการสร้างรายได้ในส่วนของผู้ประกอบการรายย่อยอื่นๆ ตามมา แต่คงต้องใช้เวลาพิจารณา โดยไม่ได้เร่งรัดแผนดำเนินการแต่อย่างใด

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า การรับซื้อโรงไฟฟ้าชุมชนสามารถดำเนินการได้ภายใต้แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ ปี 2561-2580 (PDP2018) ซึ่งเป็นแผน PDP ฉบับเดิม เพียงแต่เพิ่มเติมบทแทรก โดยไม่รอจัดทำแผน PDP ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 1 ที่ปัจจุบันยังไม่ได้นำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และจัดทำก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ดังนั้น การปรับปรุงแผน PDP ใหม่คงต้องรอให้สถานการณ์โควิด-19 นิ่งก่อนจึงจะมีการปรับปรุงเพิ่มเติม

ปัจจุบันปริมาณสำรองไฟฟ้ามีมากถึงราว 40% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งประเทศ เบื้องต้นมีแนวทางที่จะยกระดับโครงสร้างไฟฟ้าให้เป็นระดับภูมิภาค  ขายไฟฟ้าที่เหลือไปยังอาเซียน เน้นเมียนมาและกัมพูชา ซึ่งจะต้องสร้างความชัดเจนภายใน 6 เดือนถึง 1 ปี โดยจะต้องใช้เงินลงทุนสูงและมีการปรับกฎระเบียบพอสมควร อาจจะมีข้อเสนอให้ปลดระวางโรงไฟฟ้าเอกชนที่ใกล้หมดอายุก่อนกำหนดนั้น คงไม่ดำเนินการ เพราะมีสัญญาระหว่างกันอยู่แล้ว

นอกจากนี้การจะเพิ่มการรับซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างในลาวนั้น  มีโอกาสที่จะดำเนินการได้ เพราะไทยก็ยังคงต้องการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานน้ำ ที่มีต้นทุนที่ถูก แต่คงไม่ใช่ช่วงเวลานี้ จะต้องรอให้สถานการณ์ภายในประเทศและภาวะเศรษฐกิจของไทยนิ่งก่อน  ส่วนนโยบายปิโตรเลียมนั้น ขณะนี้ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะเร่งรีบเปิดประมูลปิโตรเลียมรอบใหม่ จากแผนเดิมจะเปิดในปีนี้ เพราะราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำไม่น่าจะจูงใจให้มีผู้สนใจเข้าร่วมประมูลมากทำให้ไม่คุ้มค่า

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวว่า  การนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ของภาคเอกชนที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper) นั้น คาดว่าจะนำเข้าได้ภายในปีนี้ เพราะเป็นไปตามแผนการเปิดเสรีก๊าซธรรมชาติระยะที่ 2 ด้านการส่งเสริมน้ำมันเชื้อเพลิงชีวภาพ ทั้งแก๊สโซฮอล์ E20 และดีเซล B10 ยังคงเดินหน้าต่อไป เพื่อช่วยให้เกษตรกรได้ประโยชน์