ดาวโจนส์ปิดลบกว่า 80 จุด โกลด์แมนแซคส์ปรับเป้า S&P 500

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดลบกว่า 80 จุด “โกลด์แมนแซคส์” ปรับเป้าหมายดัชนี S&P 500 สิ้นปีนี้ เป็น 3,600 จุด ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น ราคาน้ำมันดิบบวก WTI เพิ่มขึ้นกว่า 2%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 17 สิงหาคม 2563 ที่ 27,844.91 จุด ลดลง 86.11 จุด หรือ 0.31% ขณะที่ดัชนี S&P 500 ยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นไปใกล้ระดับสูงสุดเดิม แม้ยังไม่มีความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,381.99 จุด เพิ่มขึ้น 9.14 จุด, +0.27%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,129.73 จุด เพิ่มขึ้น 110.43 จุด, +1.00%

นักวิเคราะห์จากสปาร์ตัน แคปปิตอล ซีเคียวริตี้ระบุว่า การปรับขึ้นของ ดัชนี S&P 500 ยังมาจาก 3 ปัจจัยเดิมคือ ดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำใกล้ 0% และไม่มีแหล่งทำผลตอบแทนจากการลงทุนแหล่งอื่น นักลงทุนจึงลงทุนในหุ้น

โกลด์แมนแซคส์ปรับเป้าหมาย ดัชนี S&P 500 ปิดสิ้นปีนี้ขึ้นจาก 3,000 จุด เป็น 3,600 จุด

การปรับขึ้นของดัชนี S&P 500 ยังได้รับปัจจัยบวกจากการปรับขึ้นของตลาดหุ้นเอเชียเมื่อวานนี้ จากการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของธนาคารกลางจีนด้วยการอัดฉีดเงินเข้าระบบจำนวน 700 พันล้านหยวนผ่าน Medium-term Lending Facility

นักลงทุนจับตาการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทค้าปลีกรายใหญ่ ในสัปดาห์นี้ รวมทั้งยังจับตารายงานการประชุมวันที่ 28-29 กรกฎาคมของเฟด ที่จะเผยแพร่ในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐฯ เพื่อจับสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยและแนวโน้มนโยบายการเงิน

แม้ยังไม่มีความคืบหน้าของการเจรจาระหว่างพรรคเดโมแครตและทำเนียบขาวในเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ แต่นักวิเคราะห์บางรายคาดว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวเร็ว เพราะมาตรการที่ยังอยู่ระหว่างดำเนินการนั้นมากพอที่จะสนับสนุนเศรษฐกิจในไตรมาสสามและไตรมาสสี่ปีนี้

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ สมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) เผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 6 จุด มาที่ระดับ 78 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่มีการจัดทำข้อมูล

หุ้นกลุ่มสายการบินลดลงตามสายการบินในยุโรป จากความกังวลต่อจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่ที่เพิ่มขึ้น โดยหุ้นอเมริกันแอร์ไลน์ลดลง 5.3% หุ้นยูไนเต็ดแอร์ไลน์ลดลง 4.9% หุ้นเดลต้าแอร์ไลน์ลดลง 3.2%

หุ้นโนวาแวกซ์ บริษัทผลิตวัคซีนรายใหญ่เพิ่มขึ้น 6.2% หลังประกาศเริ่มต้นการทดสอบทางคลินิกเฟส 2b ในแอฟริกาใต้ เพื่อประเมินประสิทธิภาพของวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่ชื่อว่า NVX-CoV2373

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้กลุ่มท่องเที่ยวและสันทนาการลดลง 1.5% แต่ถูกกลบด้วยการปรับขึ้นของกลุ่มทรัพยากรพื้นฐานที่ปรับตัวขึ้น 1.6% เพราะคาดหวังว่าจะได้รับผลบวกของการอัดฉีดเงินของธนาคารกลางจีน แต่นักลงทุนยังเกาะติดสถานการณ์การระบาดรอบสองของไวรัสโควิด-19 และความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีน

นักวิเคราะห์จากมาร์เก็ตดอทคอมให้ความเห็นว่า นักลงทุนเกรงว่าการติดเชื้อรอบใหม่จะกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจให้ตกลงไป เพราะมีการนำมาตรการเข้มงวดมาใช้อีกครั้ง โดยเยอรมนีขยายคำแนะนำการเดินครอบคลุมเกือบทั้งประเทศสเปน

ก่อนหน้านี้อังกฤษมีคำสั่งกักตัวผู้ที่เดินทางเข้าจากฝรั่งเศส 14 วัน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 369.26 จุด เพิ่มขึ้น 1.19 จุด , +0.32%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,127.44 จุด เพิ่มขึ้น 37.40 จุด, +0.61%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,971.94 จุด เพิ่มขึ้น 9.01 จุด, +0.18%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,920.66 จุด เพิ่มขึ้น 19.32 จุด, +0.15%

หุ้นกลุ่มเดินทางลดลง โดยหุ้น Tui ลดลง 5.07% หุ้นไอเอจี บริษัทแม่จองบริติชแอร์เวย์ลดลง 5.29% หุ้นลุฟท์ฮันซาลดลง 3.57% หุ้นไรอันแอร์ลดลง 5.92%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 88 เซนต์ หรือ 2.1% ปิดที่ 42.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 57 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 45.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

อ่านข่าว

ตลาดหุ้นโตเกียวเช้าลบ-เอเชียบวกเล็กน้อย

ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น