HoonSmart.com>>คอมเซเว่น Q2/63 ทำรายได้กว่า 7,775 ลบ. กำไร 275 ลบ. จากกลยุทธ์ ขายออนไลน์ และการไดร์ฟทรู มองครึ่งปีหลังฟื้นตัว รับปัจจัยบวก 5G กระตุ้นตลาดไอทีให้คึกคัก เปิดสาขาได้ตามปกติ 779 สาขา และคาดสิ้นปีมีมากกว่า 955 สาขา ควบคู่ขยายช่องทางออนไลน์ วางเป้าปีนี้โต 10%
นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (COM7) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 2/2563 ที่ผ่านมาของบริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายและกำไรได้ในระดับที่น่าพอใจ แม้จะอยู่ในสถานการณ์การล็อกดาวน์ ทำให้ต้องปิดสาขาเป็นการชั่วคราว ทีมบริหารจึงให้ความสําคัญกับการปรับตัวในการดําเนินธุรกิจเพื่อรักษาและคงการเติบโตของรายได้จากหน่วยธุรกิจต่างๆ หาแนวทางในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดําเนินงานเพื่อคงกระแสเงินสดและความสามารถในการทํากําไร
“เป็นความท้าทายในการบริหารงานในช่วง COVID-19 ส่งผลให้บริษัทฯ ต้องทยอยปิดสาขาอย่างต่อเนื่องเป็นการชั่วคราว โดยในเดือนเม.ย.ต้องปิดสาขาสูงสุดเป็นจำนวน 594 สาขา และมีสาขาที่เปิดให้บริการเพียง 185 สาขา อย่างไรก็ดี COM7 พยายามปรับกลยุทธ์อย่างรวดเร็ว ควบคุมความเสี่ยง อย่างไรก็ดี บริษัทฯ กลับมาเปิดสาขาทั้งหมดได้ตามปกติในช่วงกลางเดือนพ.ค. ในรูปแบบ New Normal ยอดขายผ่านสาขามีทิศทางเติบโตขึ้น” นายสุระ กล่าว
โดยผลประกอบงวดไตรมาส 2/2563 บริษัทฯ มีรายได้รวม 7,775.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.9 ล้านบาท หรือ 0.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 7,769.2 ล้านบาท เติบโตจากการขยายช่องทางการจำหน่ายอื่นๆ เพิ่มเติม และมีกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 274.5 ล้านบาท ลดลง 19.7 ล้านบาท หรือ 6.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 294.2 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบของมาตรฐานบัญชีฉบับที่ 16 ที่บันทึกในปี 2563 รวม 30 ล้านบาท และกระทบในส่วนของไตรมาส 2 จำนวน 17 ล้านบาท ขณะที่ งวด 6 เดือนแรกปี 2563 มีรายได้รวม 15,970.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 15,404.3 ล้านบาท และมีกำไรส่วนของบริษัทใหญ่ 562.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 544.3 ล้านบาท
ณ สิ้นไตรมาส 2/2563 บริษัทฯ มีสาขาภายใต้การบริหารงานของกลุ่มบริษัทรวม 779 สาขา แบ่งเป็น Banana 247 สาขา Studio7 101 สาขา KingKong Phone 97 สาขา True Shop by COM7 123 สาขา แฟรนไชส์ 86 สาขา BKK 50 สาขา iCare 27 สาขา และอื่นๆ 48 สาขา คาดสิ้นปี 2563 มีสาขารวมมากกว่า 955 สาขา
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีช่องทางการจำหน่ายแบ่งเป็น 2 ช่องท่าง ได้แก่ ช่องทางธุรกิจค้าปลีก (B2C) ในไตรมาส 2/2563 และในไตรมาส 2/2562 มีสัดส่วน 86% และ 95% ตามลำดับ ลดลงจากการปิดสาขาเป็นการชั่วคราว สำหรับ ช่องทางการจำหน่ายอื่นๆ ได้แก่ รายได้จากช่องทางการบริหาร True Shop , Online , B2B และ B2G มีสัดส่วน 14% และ 5% ตามลำดับ เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นจากการปรับกลยุทธ์ในช่วงที่มีการล็อกดาวน์ COM7 รุกการขายสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น และมีการเติบโตสูงมาก รวมถึง การจัดแคมเปญ ให้เช่า Notebook ตอบรับกระแส Work From Home และเพิ่มช่องทางธุรกิจไปในส่วนขององค์กรและภาครัฐบาล ทำให้สัดส่วนรายได้ในช่องทางนี้เติบโตอย่างน่าประทับใจ
สำหรับภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลังมองฟื้นตัว และมีแนวโน้มเติบโตกว่าครึ่งปีแรก จากกำลังซื้อในประเทศ สินค้าไอทีและสินค้าเทคโนโลยีเป็นกลุ่มสินค้าที่มีความต้องการสูง การหาช่องทางการขายใหม่ๆ เน้นการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี โดยในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการระบายสินค้าเพื่อให้ได้รับเงินสดและเตรียมรองรับสินค้ารุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในช่วงครึ่งปีหลัง รวมทั้ง ได้รับปัจจัยบวกจาก 5G และกลุ่มสินค้า IoT Smart Home และ Smart Health รวมไปถึง การนำเทคโนโลยีเพื่อใช้ในการเรียนการสอน การบริหารจัดการภายในองค์กร เทคโนโลยีด้านการเกษตร และอื่นๆ อีกมากมาย ประเมินปี 2563 แม้เป็นปีที่ท้าทางของบริษัทฯ แต่เชื่อว่ารายได้จะยังคงเติบโตมากกว่าปีที่แล้ว โดยตั้งเป้าหมายเติบโต 10% จากปีก่อน
นอกจากนี้ COM7 มีแผนขยายช่องทางการจัดจําหน่ายอย่างต่อเนื่อง และยังคงมองโอกาสในการเพิ่มช่องทางการขายอื่นๆ เช่น การรุกตลาดออนไลน์, การจําหน่ายสินค้า Click & Collect แบบ Drive Thru, เปิดร้าน Pop-Up Store ที่สํานักงานใหญ่ และยังวางแผนการเปิดร้านแบบ Stand-Alone
