HoonSmart.com>>นักวิเคราะห์เชียร์ซื้อหุ้น อินโดรามาฯ กำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 2/2563 ดีเกินคาด ไตรมาส 3 ฟื้นตัวต่อ บล.ดีบีเอสฯให้ถือ ราคาเป้าหมายเพียง 28 บาท บล.ทรีนีตี้ ตีมูลค่าถึง 41 บาท มั่นใจปีนี้กำไรปกติเข้าเป้า 1 หมื่นล้านบาท ธุรกิจเกี่ยวเนื่องรถยนต์สดใส แต่ลดกำไรสุทธิเหลือ 5,800 ล้านบาท จากขาดสต๊อกครึ่งปีแรกฉุด
บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL)เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 2/2563 มีกำไรสุทธิ 153 ล้านบาท ดิ่งลงแรงถึง 2,114 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 93.25% จากที่มีกำไรสุทธิ 2,267 ล้านบาทช่วงเดียวกันปีก่อน และรวม 6 เดือนปีนี้มีกำไรสุทธิ 724 ล้านบาท ลดลง 5,251 ล้านบาท หรือ ประมาณ 88% จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 5,975 ล้านบาท
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่แนะนำซื้อหุ้น IVL มีเพียงบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) แนะนำให้ “ถือ” ราคาเป้าหมายเพียง 28 บาท/หุ้น อิงกับ P/E 20 เท่า (เท่ากับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี) คาดไตรมาส 3 กำไรดีขึ้น ปัจจัยหนุนจากอุปสงค์ผลิตภัณฑ์ความสะอาดและบรรจุภัณฑ์ที่สูง, ผลกระทบจากสต็อกน้อยลง เนื่องจากราคา PX และ PTA ปรับขึ้น หลังจากไตรมาส 2 ทำกำไรได้เพียง 154 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสแรกที่มีกำไรสุทธิ 571 ล้านบาทและต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้
ปัจจัยที่กดดันในไตรมาส 2 มาจากผลขาดทุนจากสต็อก 3,290 ล้านบาท, ไม่มีกำไรพิเศษ และการอ่อนลงของธุรกิจโอเลฟินส์ & ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงธุรกิจไฟเบอร์ แต่ได้รับการชดเชยจากธุรกิจ PET ที่ดี, ต้นทุนวัตถุดิบลดลง และมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน
สำหรับกำไรจากธุรกิจหลักหรือ Core EBITDA อยู่ที่ 94 ดอลลาร์/ตัน ลดลง -18%จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ดีขึ้น +2%จากไตรมาสแรก ด้านกำไรปกติ (ไม่รวมรายการพิเศษต่างๆ) อยู่ที่ 3,180 ล้านบาท ลดลง -39%จากไตรมาสที่ 2/2562 แต่เติบโต 33%จากไตรมาสแรก
ปัจจัยเสี่ยงต่อ IVL คือ อุปทาน PX, PTA และ PET ที่จะเข้ามาเพิ่ม 3 ล้านตัน/ปี, 6 ล้านตัน/ปี และ 1 ล้านตัน/ปี ภายในสิ้นปี 2563 โดยหลักมาจากประเทศจีน
ด้านบล.ทรีนีตี้ แนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 41 บาท ในไตรมาสที่ 2/2563 กำไรปกติดีขึ้นจากไตรมาสแรก โดยรวมครึ่งปีอยู่ที่ 5,500 ล้านบาท หรือประมาณ 55% จึงยังคงประมาณการกำไรปกติไว้ที่ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท แต่ปรับลดกำไรสุทธิลงเป็น 5,800 ล้านบาท รวมขาดทุนจากสต๊อกและรายการพิเศษอื่นๆ ที่เกิดขึ้นครึ่งปีแรก
“เราเชื่อว่าในไตรมาส 3 กำไรปกติก็น่าจะอยู่ได้ราว 2,500-3,000 ล้านบาท ธุรกิจ Fiber ซึ่งเกี่ยวข้องกับรถยนต์น่าจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้ หลังจากโรงงานรถยนต์ในยุโรปกลับมาเปิดโรงงาน
บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 36 บาท ยังคงมุมมองบวกต่อ IVL เนื่องจาก EV / EBITDA อยู่ที่ 7.5 เท่า (ค่าเฉลี่ยในอดีต 8.6 เท่า )มูลค่าหุ้นน่าสนใจและอยู่บนฐานที่มั่นคงกว่าเมื่อเทียบกับรายอื่น ๆ ในธุรกิจปิโตรเคมี จากความสามารถในการทำกำไรในไตรมาส 2/63 มีแนวโน้มต่ำสุดของปี ปริมาณจะเพิ่มขึ้น (PET Stable) ในขณะที่ Fibers จะดีขึ้น ประเมิน EBITDA ครึ่งปีหลังจะเพิ่มขึ้นโควิดระบาดรอบ 2 ไม่กระทบ ความเสี่ยงด้านขาลงของสเปรดต่ำ แนวโน้มครึ่งปีหลังฟื้นตัว การใช้รถยนต์จะกลับมาคึกคัก
คณะกรรมการบริษัทฯมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล หุ้นละ 0.175 บาทให้ผู้ถือหุ้น กำหนดวันขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 27 ส.ค.2563 และจ่ายเงินวันที่ 10 ก.ย. 2563 คิดเป็นอัตราผลตอบแทนประมาณ 0.69% เมื่อเทียบกับราคาหุ้นปิดที่ 25.25 บาท ณ วันที่ 14 ส.ค.2563