กูรูประเมินดัชนีหุ้นรอบนี้อาจร่วงแตะ 1,450 จุด

นักวางแผนการเงินฯ มองหุ้นไทยรอบนี้มีโอกาสร่วงลง 400 จุด แตะระดับ 1,450 จุด แนะแบ่งเงินทยอยซื้อสะสมหุ้นบลูชิพ-มีปันผล

น.ส.นฤมล บุญสนอง กรรมการสมาคมนักวางแผนการเงินไทย กล่าวในหัวข้อ “จัดพอร์ตการลงทุน ยามหุ้นผันผวน” วันนี้ (29 มิ.ย.) โดยระบุว่า ดัชนีฯช่วงนี้ยังเป็นขาลง และเมื่อย้อนดูสถิติที่ดัชนีฯตกหนักๆ 2 ช่วงพบว่า ในช่วงเวลาเพียง 6 เดือนถึง 1 ปี ดัชนีฯร่วงลงไป 400 จุด คือ ช่วงวันที่ 21 พ.ค.2556-6 ม.ค.2557 ดัชนีฯร่วงลง 404 จุด จาก 1,649 จุดเหลือ 1,205 จุด และช่วงวันที่ 4 ก.พ.2558-11 ม.ค.2559 ดัชนีฯตกลง 398 จุด จากระดับ 1,619 จุดเหลือ 1,220 จุด

ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าดัชนีฯรอบนี้จะร่วงลงมาได้ถึง 400 จุด หรือลดลงจากจุดสูงสุดเดิม 1,850 จุด เหลือ 1,450 จุด แม้ว่าขณะนี้เศรษฐกิจไทยจะมีพื้นฐานดี การส่งออกเป็นบวก และการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในปีหน้า เพราะนักลงทุนมองว่าสงครามการค้าจะมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยมากกว่า จึงเทขายหุ้นออกมาทั้งกระดาน

สถิติดัชนีฯ SET ย้อนหลัง

“หุ้นลงต่อก็ไม่แปลก เพราะตอนนี้ยังอยู่ในช่วงนักลงทุน “กลัว (Fear)” เมื่อผ่านพ้นช่วงนี้ไปแล้วก็จะเข้าสู่ช่วง “แพนิค (Panic)” และช่วง “หมดหวัง (Despondency)” ก่อนที่ดัชนีฯจะกลับเป็นขาขึ้นอีกครั้ง โดยสิ่งที่ตลาดจะเห็นเมื่อเข้าสู่ช่วงแพนิค คือ ราคาหุ้นจะลดลงอย่างมากในช่วง 1-2 วัน เพราะนักลงทุนส่วนหนึ่งถูกบังคับขายหุ้น เนื่องจากใช้มาร์จิ้น หรือกู้เงินร้อนมาลงทุน ซึ่งเราอาจได้เห็นในไม่ช้านี้”น.ส.นฤมลระบุ

นฤมล บุญสนอง

น.ส.นฤมล กล่าวว่า แม้ว่าหุ้นยังเป็นขาลง แต่คนที่มีเงินเย็นสามารถทยอยซื้อหุ้นสะสมได้ แต่ไม่ควรเกิน 20% ของเงินลงทุน โดยเลือกหุ้นมาเก็ตแคปใหญ่ (บลูชิพ) และมีปันผล เช่น หุ้นกลุ่ม SET50 และSETHD โดยเฉพาะหุ้นพลังงาน ธนาคาร และค้าปลีก ซึ่งนำตลาดเมื่อดัชนีฯปรับขึ้น และเมื่อตลาดเข้าสู่ช่วงหมดหวัง คือ ไม่มีคนอยากซื้อหุ้นแล้ว ข่าวร้ายเต็มตลาด ก็ให้เพิ่มน้ำหนักเป็น 30-50% ซึ่งจะทำให้นักลงทุนได้ผลตอบแทนที่ดี เมื่อตลาดเข้าสู่ช่วงขาขึ้นอีกครั้ง

“นักลงทุนมือใหม่คงไม่เข้าตลาดฯในช่วงนี้ แต่หากมีเงินเย็นก็เข้าซื้อทีละไม้ และต้องเลือกหุ้นที่ดี รวมทั้งหาจังหวะขายให้เป็น แต่ถ้าคิดอะไรไม่ออก ก็ให้มองไปที่หุ้นกลุ่ม SET50 และSETHD ส่วนนักลงทุนมือใหม่ที่ซื้อหุ้นตอนดัชนีฯอยู่ที่ 1,700-1,800 จุด ก็มีทางเลือก เช่น ถือไปเรื่อยๆ หรือทยอยซื้อเพิ่ม แต่ต้องดูว่าหุ้นที่ถืออยู่ถูกตัวหรือไม่ เป็นหุ้นที่อยู่คู่ชาติหรือไม่ คือ เราตายไปแล้วแต่ธุรกิจนั้นยังอยู่ต่อไปได้”น.ส.นฤมลกล่าว

หุ้นบลูชิพที่มีมาเก็ตแคปมากกว่า 2% ใน SET
หุ้นบลูชิพที่มีมาเก็ตแคปมากกว่า 1-2% ใน SET
หุ้นใน SETHD ที่จ่ายปันผลเกิน 7-10% ต่อเนื่อง 5 ปี