RML Q2/63 ขาดทุน 130.4 ล้านบาท เร่งยอดโอนลูกค้าต่างชาติ

HoonSmart.com>>ไรมอน แลนด์ รายงานผลประกอบการไตรมาส 2/63 รายได้ 625.8 ล้านบาท ขาดทุน 130.4 ล้านบาทส่องตลาดคอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรี่ยังมีกำลังซื้อ ชูกลยุทธ์เจาะกลุ่มลูกค้า ไฮเอนด์ในประเทศ เร่งยอดโอนลูกค้าต่างชาติ เดินหน้าระบายสต็อกโครงการ อัพรายได้ บริหารจัดการต้นทุนการขายและบริการ รักษากระแสเงินสด

นายไลโอเนล ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไรมอน แลนด์ (RML)  เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งหลังปี 2563 น่าจะปรับตัวดีขึ้นกว่าในช่วงครึ่งปีแรก โดยตลาดอสังหาริมทรัพย์ยังมีปัจจัยสนับสนุน อาทิ มาตรการการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนองสำหรับที่อยู่อาศัยไม่เกิน 3 ล้านบาท (สิ้นสุด 24 ธ.ค. 63) และแคมเปญกระตุ้นตลาดของผู้ประกอบการอสังหาฯ จึงอาจเป็นโอกาสสำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่มีความพร้อมในการซื้อที่อยู่อาศัย

ขณะที่ทิศทางการซื้อขายที่อยู่อาศัยสำหรับตลาดระดับลักช์ชัวรี่ บริษัทมองว่ากลุ่มลูกค้าระดับบนส่วนใหญ่ยังมีกำลังซื้อสูง โดยตลาดคอนโดมิเนียมลักซ์ชัวรี่มีระดับราคา 80,000-110,000 บาทต่อตารางเมตร และมีการปรับลดราคาขายเพียง 2-3% เท่านั้น ซึ่งเป็นตลาดที่แข่งขันรุนแรง แต่ไม่เท่ากับการแข่งขันของตลาดระดับกลาง-ล่าง ทำให้ตลาดระดับลักช์ชัวรี่ ยังมีศักยภาพด้านกำลังซื้อ จากกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อในประเทศ และเป็นโอกาสที่กลุ่มลูกค้าดังกล่าวซื้อเพื่อการลงทุน  ซึ่งถือเป็นผลบวกให้กับบริษัทเพื่อชดเชยยอดการโอนของลูกค้าต่างชาติที่ยังไม่สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศได้

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทวางกลยุทธ์เจาะกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ที่อาศัยอยู่ในประเทศ พร้อมกับปรับดีไซน์ในแต่ละโครงการ ภายใต้แนวคิด “Design for Living”  ประกอบกับบริษัทยังคงเร่งระบายสต็อกโครงการที่เหลือ พร้อมบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพเพื่อเสริมความมั่นคงของสถานะเงินสด บริษัทเชื่อมั่นว่าจากการปรับกลยุทธ์ดังกล่าวจะทำให้บริษัทค่อย ๆ ฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งหลังวิกฤตนี้ผ่านพ้นไป

ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 2/2563 บริษัทมีรายได้รวม 625.8 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 887 ล้านบาท จำนวน 261.2 ล้านบาท หรือลดลง 29.4% และบริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ 130.4 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ  54.7  ล้านบาท จำนวน  185.2  ล้านบาท หรือลดลง 338.3%

ส่วนไตรมาส 2/2563 บริษัทมียอดขาย (Presales) 1,322.6 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 241.8 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากการจัดโปรโมชั่น Hot Sales ในช่วงเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ตามนโยบายที่ต้องการมุ่งเน้นการเพิ่มรายได้และรักษากระแสเงินสดในมือให้มีสถานะมั่นคงที่สุด ซึ่งที่ผ่านมา บริษัทได้เร่งระบายสต็อกโครงการคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ส่งผลให้ตัวเลข Presales ครึ่งปีแรกอยู่ที่ 1,881.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มียอดพรีเซลล์ 1,603.4 ล้านบาท

ด้านผลประกอบการในงวด 6 เดือนแรกปี 2563 บริษัทมีรายได้รวม 1,049.4 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวม 2,349.6 ล้านบาท จำนวน 1,300.2 ล้านบาท หรือลดลง 55.3% และมีผลขาดทุน 269.9 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ  150.8  ล้านบาท จำนวน  420.7 ล้านบาท หรือลดลง 279%

ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตลดลง โดยเฉพาะรายได้รวมที่ลดลงในไตรมาส 2/63 มาจากฐานรายได้พิเศษที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่บริษัทมีรายได้จากการขายที่ดินและกำไรจากการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยรวม 92 ล้านบาท และรายได้อื่น ๆ อีก 88 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่ารายได้อื่น ๆ และเมื่อเปรียบเทียบรายได้หลักในไตรมาสนี้ มาจากการรับรู้รายได้โครงการอสังหาริมทรัพย์ 4 โครงการ รวม 588.9 ล้านบาท ลดลงจาก 685.5 ล้านบาท หรือลดลง 14.1% เนื่องจากโครงการเดอะ ลอฟท์ สีลม มีลูกค้าต่างชาติเป็นสัดส่วนราว 49% ของมูลค่าโครงการ ทำให้มีการชะลอการรับโอนห้องชุดจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด-19 ทั้งในแง่ของความพร้อมด้านการเงินของลูกค้าบางรายที่ถูกกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ และความไม่สะดวกในการทำธุรกรรมจากต่างประเทศ

ทั้งนี้ บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2563 อยู่ที่ 8,379.1 ล้านบาท รวมทั้งหมด 11 โครงการ