ดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 350 จุด รับ “ทรัมป์” เซ็นคำสั่งขยายมาตรการเยียวยา

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกกว่า 350 จุด รับประธานาธิบดีสหรัฐฯ “ทรัมป์” เซ็นคำสั่งขยายมาตรการเยียวยา ด้านตลาดหุ้นยุโรปบวกยกแผง ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นกว่า 1%

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 10สิงหาคม 2563 ที่ 27,791.44 จุด เพิ่มขึ้น 357.96 จุด หรือ 1.30% จากการปรับขึ้นของหุ้นที่อ่อนไหวตามวัฎจักรเศรษฐกิจ กลบการก่อนตัวลงของหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,360.47 จุด เพิ่มขึ้น 9.19 จุด, +0.27%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,968.36 จุด ลดลง 42.62 จุด, -0.39%

หุ้นแคทเธอพิลลาร์ที่มองว่าไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกปรับตัวขึ้นกว่า 5% เจพี มอร์แกน เชส เพิ่มขึ้น 1.2%

ดัชนี S&P 500 ได้รับแรงหนุนจากกลุ่มพลังงานและกลุ่มอุตสาหกรรมที่ปรับขึ้นกว่า 2.4% ปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 7 จนห่างจากระดับสูงสุดไม่ถึง 1% แต่ดัชนี Nasdaq ลดลงหลังจากนักลงทุนลดสถานะการถือครองในหุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่

หุ้นเฟซบุ๊ก หุ้นเน็ตฟลิกซ์ต่างลดลง 2% หุ้นไมโครซอฟต์ลดลง 1.99% หุ้นแอมะซอนลดลง 0.6% และหุ้นอัลฟาเบทลดลง 0.1%

การปรับตัวขึ้นของตลาดเกิดขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ลงนามในคำสั่งบริหารช่วงสุดสัปดาห์ขยายมาตรการเยียวยาผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้โครงการช่วยเหลือคนตกงานที่หมดอายุเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมและการเลื่อนกำหนดการชำระเงินกู้เพื่อการศึกษายังมีผลบังคับใช้ไปตลอดทั้งปี 2020 และยกเว้นภาษีเงินได้

อย่างไรก็ตามการจ่ายช่วยเหลือเงินคนตกงานลดลงเหลือ 400 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์จาก 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์

นักวิเคราะห์ระบุว่า แม้การลงนามในคำสั่งบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์อาจจะมีปัญหาในทางข้อกฎหมายแต่ในทางการเมืองจะบีบให้สภาคองเกรสเร่งสรุปมาตรการ ทั้งนี้การลงนามในคำสั่งบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์มีขึ้นหลังจากการเจรจามาตรการเยียวยาระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันในสัปดาห์ที่แล้วไม่สามารถตกลงกันได้จนมาตรการหมดอายุเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม

คำสั่งบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์อาจจะมีปัญหาในทางข้อกฎหมาย เพราะเงินช่วยเหลือยังต้องมาจากภาครัฐซึ่งสภาคองเกรสควบคุม พรรคเดโมแครตยืนยันว่าจะไม่สนับสนุนมาตรการที่ไม่ขยายการจ่ายช่วยเหลือเงินคนตกงาน 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์

นายสตีเว่น มนูชิน รับมนตรีคลังให้สัมภาษณ์ซีเอ็นบีซีว่า เปิดกว้างสำหรับการเจรจามาตรการเยียวยาครั้งใหม่และเตรียมที่จะใส่เงินเพิ่มอีก

มาตรการสนับสนุนของภาครัฐที่หมดอายุลง (Fiscal cliff) เป็นความเสี่ยงขาลงในเดือนสิงหาคม แต่เดือนกันยายน มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่จะเป็นแรงหนุนในทางบวก รวมไปถึงการเปิดโรงรียนในบางรัฐที่จะกระตุ้นการใช้จ่ายเกี่ยวกับการเรียน และการที่พ่อแม่กลับไปทำงานในเดือนกันยายน นักวิเคราะห์จาก เจฟเฟอรี่ยส์ให้ความเห็น

อย่างไรก็ตามความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีนสูงขึ้นหลังจากจีนประกาศเมื่อวานนี้ที่ปักกิ่งว่า จะใช้มาตรการคว่ำบาตรกับนักการเมืองสหรัฐฯ และผู้นำองค์กร 11 คนที่ส่งเสริมต้นเหตุประชาธิปไตย รวมทั้งมาตรการเพิ่มเติมที่เจาะจงไปที่วุฒิสมาชิกมาร์โก รูบิโอ และเท็ด ครูซ ซึ่งถูกห้ามเดินทางเข้าจีนไปแล้ว

นอกจากนี้เครื่องบินขับไล่ของจีนไปบินข้ามเส้นแบ่งแดนในช่องแคบไต้หวัน ขณะที่นายอเล็กซ์ อาซาร์รัฐมนตรีสาธารณสุขสหรัฐฯเดินทางเยือนไต้หวัน ทั้งนี้นายอาซาร์เป็นเจ้าหน้าที่ทางการอาวุโสของหสรัฐฯที่เยือนไต้หวันในรอบเกือบ 4 ทศวรรษ

กระทรวงแรงงานเผยผลสำรวจการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 518,000 ตำแหน่ง มาที่ 5.8 ล้านตำแหน่ง เป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 2 เดือน

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ท่ามกลางการซื้อขายที่ระมัดระวัง นำโดยกลุ่มธนาคารที่ปรับขึ้น 2% จากข้อมูลเศรษฐกิจของจีนที่สร้างความหวังต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แต่กลุ่มเทคโนโลยีลดลง 1.6% จากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีน

เมื่อวานนี้สำนักงานสถิติจีนเผยดัชนีผู้ผลิต(Producer Price Index:PPI) เดือนกรกฎาคมลดลง 2.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ดีกว่า 2.5% ที่นักวิเคราะห์คาดและดีขึ้นจากที่ลดลง 3% ในเดือนมิถุนายน

นักวิเคราห์ระบุว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมของจีนกำลังฟื้นตัวกลับมาที่ระดับก่อนการระบาดของไวรัสโควิด-19

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 364.65 จุด เพิ่มขึ้น 1.10 จุด , +0.30%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,050.59 จุด เพิ่มขึ้น 18.41 จุด, +0.31%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,909.51 จุด เพิ่มขึ้น 19.99 จุด, +0.41%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,687.53 จุด เพิ่มขึ้น 12.65 จุด,+0.10%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 72 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 41.94 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 59 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 44.99 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

อ่านข่าว

ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นหวังศก.ดีขึ้น มาตรการชุดใหม่หนุน