www.HoonSmart.com สัมภาษณ์พิเศษ “มานพ ธรรมสิริอนันต์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิลิคอน คราฟท์ (SICT) ถึงเหตุผลที่ SICT ร้อนแรงซิลลิ่ง 4 วันติด และราคากระโดดจากที่ขาย IPO 1.38 บาทขึ้นมาถึง 5.10 บาท แพงแล้วหรือยัง…จะลุยต่อได้หรือไม่
“มานพ ธรรมสิริอนันต์” เปิดเผยว่า ราคาหุ้น SICT ปรับตัวขึ้นแรง ซิลลิ่ง 4 วันติดต่อกันนั้น สะท้อนให้เห็นถึงเทรนด์เทคโนโลยีที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงการวิถีชีวิตในปัจจุบันของคนทั่วโลก รูปแบบเทคโนโลยีใหม่ๆที่เข้ามาช่วยให้สะดวกมากขึ้น ซึ่งเทรนด์นี้ยังสามารถเติบโตได้อีกมากในอนาคต
“หากพิจารณาปรากฎการณ์ของราคาหุ้น SICT แสดงให้เห็นว่าเรามีความโดดเด่นทางธุรกิจมาก และนักลงทุนมั่นใจในศักยภาพของเราที่มีการเติบโตสูง” มานพ กล่าว
บริษัทมีจุดแข็ง มีโมเดลธุรกิจที่เป็นผู้ออกแบบไมโครชิพและเป็นเจ้าของเทคโนโลยี จากนั้นจะว่าจ้างผู้ผลิตรายอื่นให้ผลิตไมโครชิพ ซึ่งข้อดีของโมเดลแบบนี้ คือ บริษัทจะมีความคล่องตัวในการดำเนินงาน และไม่มีค่าใช้จ่ายในการลงทุนและบริหารโรงงาน ความเสี่ยงจึงต่ำกว่า โดยบริษัทจะเน้นถือครองทรัพย์สินทางปัญญา และการเพิ่มช่องทางใหม่ๆ รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมให้มีมูลค่าที่ดีขึ้น ตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นที่มากกว่า 40%
ขณะที่บริษัทตั้งเป้าภายในปี 2567 จะมีรายได้เติบโตเป็น 2 เท่าตัว หรือแตะ 600 ล้านบาท จากปี 2563 ที่คาดว่ารายได้จะเติบโตไม่น้อยกว่าระดับ 308.8 ล้านบาทในปีก่อนหน้า ปัจจัยหนุนมาจากการเติบโตของ 4 ธุรกิจหลัก
“เราบอกไม่ได้ว่าตั้งราคา IPO ต่ำเกินไปหรือเปล่า และราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแรงกว่าปัจจัยพื้นฐานแล้วหรือยัง แต่เราทำให้นักลงทุนมั่นใจได้ว่า จะทำตามแผนการระดมทุน จะใช้เม็ดเงินทุกบาทมารองรับการขยายการเติบโตในอนาคต เพื่อการโตอย่างก้าวกระโดด และนำเงินมาจ่ายปันผล ตอบแทนการลงทุนของผู้ถือหุ้นแน่นอน”มานพ กล่าวทิ้งท้าย
ด้านที่ปรึกษาทางการเงิน “วรชาติ ทวยเจริญ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ กล่าวว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ส่งผลให้เกิดกระแสการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ในฝั่งของการระดมทุนหุ้น IPO พบว่า บริษัทเทคโนโลยีก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนสูงเช่นกัน อาทิ บริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี ราคาหุ้นในวันแรกของการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ปรับขึ้นถึง 200% จากราคาจองซื้อ IPO
“ผมมองว่า SICT ตั้งราคาขายที่เหมาะสมแล้ว โดยตั้งตามปัจจัยพื้นฐานและผลการดำเนินงาน แต่เหตุผลที่ทำให้ราคาหุ้นซิลลิ่ง 200% ตั้งแต่ในวันที่เข้าเทรด และยังซิลลิ่งต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนให้ความสนใจในกลุ่มเทคโนโลยีมากขึ้น และเป็นอุตสาหกรรมที่มีน้อยในตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงจากผลกระทบโควิด-19 ทำให้หุ้นกลุ่มเทคโนได้รับการตอบรับที่ดี”
ปัจจุบัน บริษัทฟินเน็กซ์ฯยังมีดีลหุ้น IPO ในมือปีนี้อยู่ แม้จะยังไม่มีแผนนำหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่มเติมในช่วงที่เหลือ แต่ในปี 2564 มีแผนจะนำหุ้นที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีทางการแพทย์เข้าระดมทุนในตลาด mai อีก 1 ราย ซึ่งบริษัทดังกล่าวได้รับอานิสงส์จากการระบาดของโควิด-19 โดยตรง เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ให้บริการการแพทย์ทางไกล (TeleHealth)
“หุ้นเทคโนโลยีส่วนใหญ่มักเข้าระดมทุนในตลาดหุ้น mai เพราะมีทุนจดทะเบียนไม่เยอะ ในอนาคตเราเชื่อว่ากองทุนจะให้ความสนใจเข้ามาลงทุนในกลุ่มนี้มากขึ้น จากกระแสการใช้เทคโนโลยี และความเข้าใจของคนในธุรกิจที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหุ้นเทคโนโลยี เหล่านี้มีการเติบโต สามารถสร้างรายได้จากเทคโนโลยีของเขาได้จริงๆ” วรชาติ กล่าวทิ้งท้าย