SAT พลิกขาดทุน 143 ลบ. ใจป้ำปันผล 12 สต. XD 19 ส.ค.นี้

HoonSmart.com>> “สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี” ไตรมาส 2/63 พลิกขาดทุนสุทธิ 143 ล้านบาท แย่ลงจากงวดปีก่อน 184% โควิด-19 กระทบอุตสาหกรรมรถยนต์ ฉุดยอดขาย รายได้รวมลดลง 61% ด้านบอร์ดไฟเขียวปันผลระหว่างกาล 0.12 บาท ขึ้น XD 19 ส.ค. จ่ายเงิน 4 ก.ย.นี้ “บล.คิงส์ฟอร์ด” คาดครึ่งปีหลังฟื้น แนะซื้อ เป้า 12.90 บาท

บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2563 พลิกขาดทุนสุทธิ 142.63 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.34 บาท ลดลง 184% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 170.46 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.40 บาท

ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2563 กำไรสุทธิ 50.07 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.12 บาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 457.49 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.08 บาท

ในงวดไตรมาส 2/2563 บริษัทฯ ขาดทุนสุทธิปัจจัยหลักจากยอดการผลิตของอุตสาหกรรมรถยนต์และอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรที่ลดลง ซึ่งเป็นผลกระทบเนื่องจาก COVID-19 โดยมีรายได้รวม 781 ล้านบาท ลดลง 1,174 ล้านบาท หรือ 61% จากงวดปีก่อน และมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการจำนวน 754 ล้านบาท ลดลง 1,168 ล้านบาท หรือ 61% จากงวดปีก่อน

บริษทฯ มียอดขายลดลงจากอุตสาหกรรมรถยนต์มีปริมาณการผลิตลดลง 70% และอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรมีปริมาณการผลิตลดลง 44%

ขณะที่ต้นทุนขายจำนวน 795 ล้านบาท ลดลง 797 ล้านบาท หรือ 50% จากงวดปีก่อนจากปริมาณการขายที่ลดลง และมีค่าใช้จ่ายขายและบริหารจำนวน 122 ล้านบาท ลดลง 65 ล้านบาท หรือ 35% จากงวดปีก่อนจากมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายบริหารและค่าใช้จ่ายขนส่งสินค้าต่างประเทศลดลง

คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเมื่อวันที่ 6 ส.ค. 2563 อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.2563 อัตรา 0.12 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 20 ส.ค. 2563 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 19 ส.ค. 2563 และจ่ายเงิน 4 ก.ย.2563

บริษัทหลักทรัพย์ คิงส์ฟอร์ด ประเมินครึ่งปีหลัง SAT ฟื้นตัวหลังค่ายรถยนต์กลับมาเดินสายการผลิตได้เหมือนเดิม ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานครึ่งปีแรกที่ออกมาคิดเป็นเพียง 9.2% ของประมาณการ จึงปรับลดคาดการณ์กำไรสุทธิปี 63 ลงจากเดิม -38% อยู่ที่ 339 ล้านบาท -62% YoY ภายใต้สมมติฐานยอดขายลดลง -30%YoY อยู่ที่ 5,580 ล้านบาท และปี 64 ประเมินกำไรสุทธิ 583 ล้านบาท กลับมาขยายตัว 72%YoY ตามภาวะตลาดที่ฟื้นตัวและจากออเดอร์งานใหม่ที่จะเพิ่มเติมเข้ามาประมาณ 300 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงปลายปี 63

“แนะนำ “ทยอยซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 64 อยู่ที่ 12.90 บาท จากเดิม 10 บาท อิง PER 9.4x เท่ากับระดับค่าเฉลี่ยในอดีตย้อนหลัง 5 ปี แม้จะยังไม่เห็นปัจจัยบวกที่ชัดเจนภายใต้ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่เชื่อว่าผลประกอบการของบริษัทได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 2/63 และจะกลับมาเติบโตได้ในปีหน้า”บล.คิงส์ฟอร์ด ระบุ

ขณะที่ราคาหุ้นในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ PBV 0.65x, PER 9.1x คาดการณ์ Dividend Yield ทั้งปีที่ 4.8% (Payout Ratio 60%) ดังนั้นเจึงแนะนำ “ทยอยซื้อ” บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวด 1H63 จำนวน 0.12 บาท/หุ้น ขึ้น XD 19 ส.ค.63