ก.ล.ต. วินิจฉัยข้อเท็จจริงแล้วเห็นว่า นายศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (IFEC) มีพฤติกรรมอันเป็นการขัดขวางและไม่อำนวยความสะดวกให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเลือกตั้งกรรมการใหม่เกิดขึ้น ส่งผลให้ IFEC ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่มีความสำคัญและเร่งด่วน จึงอาจเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่ไม่เป็นไปตามมาตรา 89/7 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
ทั้งนี้ ก.ล.ต. เปิดโอกาสให้นายศุภนันท์ชี้แจงข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ภายในวันที่ 12 กรกฎาคม 2561
ที่ผ่านมา ก.ล.ต. เห็นว่า การจัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเลือกตั้งกรรมการใหม่ให้มีจำนวนครบเป็นองค์ประชุมตามกฎหมาย น่าจะเป็นวิธีการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันของ IFEC ที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องรีบแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น อาทิ การผิดนัดชำระหนี้ และการจัดทำและนำส่งงบการเงินต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อลดโอกาสในการถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน เพื่อมิให้ผู้ลงทุนและผู้ถือหุ้นได้รับความเสียหายมากขึ้น และเมื่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์มีคำสั่งไม่รับจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงรายชื่อกรรมการเพิ่มเติมจำนวน 2 รายได้แก่ นายวิภู มหารักขกะ และนายมนูศักดิ์ เดียววาณิชย์ ตามที่ IFEC ยื่นคำขอ มีผลทำให้ IFEC มีกรรมการที่มีรายชื่อปรากฏ ในหนังสือรับรองเพียง 3 ราย ได้แก่ (1) นายศุภนันท์ (2) นายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ และ (3) พลตรีบุญเลิศ แจ้งนพรัตน์ ซึ่งน้อยกว่าจำนวนที่ครบเป็นองค์ประชุมตามกฎหมาย ก.ล.ต. จึงได้มีหนังสือถึงนายศุภนันท์เพื่อแจ้งว่า นายศุภนันท์ต้องเร่งดำเนินการจัดประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเลือกตั้งกรรมการใหม่ และอำนวยความสะดวกในทุก ๆ ด้านเพื่อให้การจัดประชุมผู้ถือหุ้นเป็นไปอย่างราบรื่น และทำให้ IFEC มีจำนวนกรรมการครบองค์ประชุมตามกฎหมาย
แต่ปรากฏว่า นายศุภนันท์มิได้ดำเนินการดังกล่าว และมีหนังสือชี้แจงต่อ ก.ล.ต. อย่างไรก็ดี ก.ล.ต. เห็นว่าคำชี้แจงดังกล่าวไม่อาจรับฟังได้ ซึ่งกรณีดังกล่าวพิจารณาได้ว่า นายศุภนันท์ มีพฤติกรรมที่อาจเป็นการขัดขวางและมิได้ใช้ความพยายามเพื่อให้มีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเลือกตั้งกรรมการใหม่เกิดขึ้นโดยเร็ว อาทิ ปฏิเสธเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2561 และการประชุมกรรมการ วันที่ 19 มิถุนายน 2561 และไม่อำนวยความสะดวกในการจัดประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อหารือเกี่ยวกับการจัดประชุมผู้ถือหุ้น จึงอาจเข้าข่ายเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบ ความระมัดระวัง และความซื่อสัตย์สุจริต รวมทั้งไม่ปฏิบัติตามกฎหมายเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทเป็นสำคัญ ตามมาตรา 89/7 ประกอบมาตรา 281/2 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ ก.ล.ต. จึงเปิดโอกาสให้นายศุภนันท์ชี้แจงข้อมูลภายในวันที่ 12 กรกฎาคม 2561 เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ส่วนประเด็นการลงโทษผู้กระทำผิดกฎหมายหลักทรัพย์ตามที่มีข้อร้องเรียนมานั้น ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ดำเนินการไปแล้วหลายส่วน และยังคงอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ซึ่งต้องใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ หากพบว่ากรรมการหรือผู้บริหารทั้งในอดีตและปัจจุบันมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ก.ล.ต. จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดโดยเร็วต่อไป