MBKET กำไร Q2 แตะ 107 ลบ. ทะยาน 1,437% วอลุ่มตลาดพุ่งหนุนรายได้โต

HoonSmart.com>> บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ไตรมาส 2/63 กำไรสุทธิ 107 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,437% จากงวดปีก่อน รายได้ค่านายหน้าเพิ่มขึ้นตามมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 31% จาก 53,779 ล้านบาทต่อวัน เป็น 70,418 ล้านบาทต่อวัน หนุนงวดครึ่งปีกำไร 242 ล้านบาท โต 517%

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) หรือ MBKET เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2563 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.2563 กำไรสุทธิ 107.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 100.06 ล้านบาท หรือ 1,437.64% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 6.96 ล้านบาท เนื่องจากรายได้ค่านายหน้าเพิ่มขึ้น 208.55 ล้านบาท จาก 333.02 ล้านบาท เป็น 541.57 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 62.62% เนื่องจากรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 203.56 ล้านบาท หรือ 67.58% เป็นผลจากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของตลาดหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นจาก 53,779 ล้านบาทต่อวัน เป็น 70,418 ล้านบาทต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 30.89%

สัดส่วนนักลงทุนบุคคลซึ่งเป็นส่วนรายได้หลักของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 32.90% เป็น 48.01% เป็นผลให้มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของนักลงทุนบุคคลเพิ่มขึ้นจาก 17,701 ล้านบาทต่อวันเป็น 33,809 ล้านบาทต่อวัน เพิ่มขึ้น 91% และรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายสัญญาซิ้อขายล่วงหน้าเพิ่มขึ้น 4.99 ล้านบาท หรือ 15.69% เป็น 36.80 ล้านบาท

ส่วนรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการลดลง 16.29 ล้านบาท เนื่องจากค่าที่ปรึกษาทางการเงินลดลง 16.25 ล้านบาทและค่าธรรมเนียมและบริการอื่นลดลง 0.04 ล้านบาท ส่วนรายได้อื่นลดลง 50.43 ล้านบาท หรือ 25.92% เหลือ 144.10 ล้านบาท เนื่องจากดอกเบี้ยลดลง 56.69 ล้านบาทและรายได้อื่นลดลง 8.52 ล้านบาท ขณะที่กำไรจากเงินลงทุนและตราสารอนุพันธ์เพิ่มขึ้น 14.78 ล้านบาท

ส่วนงวด 6 เดือน ปี 2563 กำไรสุทธิ 241.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 202.53 ล้านบาท หรือ 517.19% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 39.16 ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้ค่านายหน้าเพิ่มขึ้น 380.70 ล้านบาท หรือ 56.92% เป็น 1,049.51 ล้านบาท โดยรายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 341.42 ล้านบาท หรือ 56.36% ผลจากมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของตลาดเพิ่มขึ้นจาก 49,365 ล้านบาทต่อวัน เป็น 68,617 ล้านบาทต่อวัน เพิ่มขึ้น 39% และสัดส่วนนักลงทุนบุคคลซึ่งเป็นส่วยรายได้หลักของบริษัทเพิ่มขึ้นจาก 34.59% เป็น 42.92% เป็นผลให้มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยของนักลงทุนบุคคลเพิ่มขึ้นจาก 17,710 ล้านบาทต่อวันเป็น 29,448 ล้านบาทต่อวัน หรือเพิ่มขึ้น 71.51%