ดาวโจนส์ปิดลบกว่า 200 จุด รอมาตรการชุดใหม่-จับตาประชุมเฟด

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดร่วงกว่า 200 จุด รอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ จับตาประชุมเฟด 28-29 ก.ค.นี้ ด้านตลาดหุ้นยุโรปมีทั้งบวกและลบ ราคาน้ำมันดิบปรับลดลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 28 กรกฎาคม 2563 ที่ 26,379.28 จุด ลดลง 205.49 จุด หรือ 0.77% ขณะที่นักลงทุนยังเกาะติดการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ที่อยู่ระหว่างการเจรจาของพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต รวมทั้งผลการดำเนินงานไตรมาสสองของบริษัทจดทะเบียน

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,218.44 จุด ลดลง 20.97 จุด, -0.65%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,402.09 จุด ลดลง 134.18 จุด, -1.27%

นักลงทุนหันไปซื้อหุ้นในกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับผลบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ แต่การปรับตัวขึ้นไม่มากพอที่จะต้านแรงขายในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้นก่อนหน้าจากการผลบวกของการใช้จ่ายออนไลน์และการทำงานที่บ้าน

หุ้นนอร์วีเจียนครูซไลน์โฮลดิ้งส์เพิ่มขึ้น 6.27% หุ้นอเมริกันแอร์ไลน์เพิ่มขึ้น 3.33% หุ้นยูไนเต็ดแอร์ไลน์เพิ่มขึ้น 3.20% หุ้นเดลต้าแอร์ไลน์เพิ่มขึ้น 1.72%

หุ้นเน็ตฟลิกซ์ลดลง 1.44% หุ้นอัลฟาเบทลดลง 1.95% หุ้น3M ลดลง 4.84%

หุ้นแมคโดนัลด์ลดลง 2.48% จากกำไรไตรมาสสองต่ำกว่าคาด

ตลาดจับตาการเจรจาระหว่างวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษบกิจชุดใหม่วงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งพรรคเดโมแครตต้องการให้คงวงเงิน 600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ที่ให้แก่คนว่างงานที่ แต่พรรครีพับลิกันต้องการลดลงมาที่ 200 ดอลลาร์ไปจนถึงกันยายน

สวัสดิการคนตกงานที่จ่ายให้จาก600 ดอลลาร์ต่อสัปดาห์ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งเริ่มตั้งแต่เมษายนจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 กรกฎาคมนี้

จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเป็น 4.29 ล้านคนและเสียชีวิต 148,056 คน โดยรัฐเท็กซัสมีผู้ติดเชื้อสูงสุด 400,000 คน

นอกจากนี้ตลาดยังเกาะติดการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลาง(เฟด)ที่มีขึ้นในวันที่ 28-29 กรกฎาคม ซึ่งคาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย แต่เฟดได้ประกาศว่าคณะกรรมการเฟดได้พิจารณาขยายระยะเวลาการโครงการเงินกู้ฉุกเฉินออกไปจากเดิมที่จะหมดเขต 30 กันยายนนี้

สถาบันวิจัยคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกรกฎาคมลดลงมาที่ระดับ 92.6 จากระดับ 98.3 ในเดือนมิถุนายน และต่ำกว่า 96.0 ที่นักวิเคราะห์คาด

ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยจากเคส-ชิลเลอร์เดือนพฤษภาคมเพิ่มขึ้น 3.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

หุ้นโมเดอร์นาเพิ่มขึ้น 1.97% หลังเริ่มทดสอบวัคซีนในคนระยะที่ 3 หุ้นไฟเซอร์เพิ่มขึ้น 3.94% หุ้นBioNTechลดลง 1.32%.

ตลาดหุ้นยุโรปมีทั้งบวกและลบ โดยกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.4% แต่กลุ่มทรัพยากรพื้นฐานลดลง 0.6% หลังจากแนวโน้มการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่ของสหรัฐฯมีน้ำหนักลดความกังวลต่อการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก แม้หลายประเทศทั้งในเอเชียและยุโรปกลับมาระงับการเดินทางอีกครั้ง ประกอบกับการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสมีความคืบหน้า

นอกจากนี้ยังรอบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐฯ

นักลงทุนยังขานรับการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียน โดยหุ้นเปอร์โยต์เพิ่มขึ้น 2.41% หลังกำไรไตรมาสสองดีกว่าคาด และวางแผนที่ควบรวมกิจการกับเฟียตไคร์สเลอร์ให้เสร็จสิ้นก่อนไตรมาแรกปี 2021

หุ้น Delivery Hero บริการส่งอาหารในเยอรมนีเพิ่มขึ้น 2.39% จากปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้ปีนี้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 367.68 จุด เพิ่มขึ้น 1.53 จุด, +0.42%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,129.26 จุด เพิ่มขึ้น 24.38 จุด, +0.40%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิด4,928.94 จุด ลดลง 10.68 จุด, -0.22%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,835.28 จุด ลดลง 3.38 จุด, -0.03%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมลดลง 56 เซนต์ ปิดที่ 41.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกันยายนลดลง 19 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 43.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล