HoonSmart.com>>”คงกระพัน อินทรแจ้ง “ซีอีโอ พีทีที โกลบอล เคมิคอล ยันไตรมาส 2 ยอดขายฟื้น หนุนทั้งปีนี้โต 7-10% เพิ่มกำลังการผลิต 5-8% จากปีก่อน มาร์จิ้นโอเลฟินส์-โพลีเมอร์ดีขึ้น นักวิเคราะห์ออกแรงเชียร์ซื้อ บล.ยูโอบีฯให้เป้า 63 บาท บล.เอเชียเวลท์ 58 บาท บล.หยวนต้า 56 บาท
นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) เปิดเผยว่า แนวโน้มยอดขายในไตรมาส 2/63 จะเติบโตจากไตรมาส 1 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุด เนื่องจากความต้องการใช้เม็ดพลาสติกเพิ่มสูงขึ้น และบริษัทมีปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นหลังหยุดซ่อมบำรุงโรงโอเลฟินส์ในไตรมาสแรก ขณะที่ส่วนต่าง (สเปรด) ผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ค่อนข้างทรงตัว และสเปรดอะโรเมติกส์ดีขึ้นเล็กน้อย
“ไตรมาส 1ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ตอนนี้สถานการณ์ดีขึ้น ยอดขายเริ่มกลับมา แม้ว่ามาร์จิ้นจะอยู่ในระดับต่ำ แต่ยอดขายเติบโตขึ้น”นายคงกระพันกล่าว
ส่วนภาพรวมยอดขายปีนี้ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 7-10% จากการหยุดซ่อมบำรุงตามแผนที่น้อยกว่าปี 62 ส่วนรายได้คงต้องประเมินถึงผลกระทบจากราคาผลิตภัณฑ์ที่มีการปรับเปลี่ยนตามภาวะเศรษฐกิจและราคาน้ำมัน ขณะที่บริษัทฯได้ลดต้นทุน ทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน และสเปรดผลิตภัณฑ์
สำหรับกำลังการผลิตในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5-8% เมื่อเทียบกับปีก่อน บริษัทฯสามารถขายสินค้าได้มากขึ้น แม้มาร์จิ้นต่ำลง แต่บริษัทฯก็มีต้นทุนที่ลดลงเช่นกัน คาดว่า ตั้งแต่ไตรมาส 2 จนถึงปลายปีนี้ มาร์จิ้นโอเลฟินส์และโพลีเมอร์จะดีขึ้น ขณะที่มาร์จิ้นอะโรเมติกส์ทรงตัว
ในเดือนก.ค.นี้นักวิเคราะห์มีการทบทวนและออกบทวิเคราะห์หุ้น PTTGC เสียงส่วนใหญ่ คือ 8 ใน 12 ราย ยังคงแนะนำ”ซื้อ” ให้ราคาเฉลี่ย 52.77 บาท และราคากลาง 54.50 บาท โดยบล.ยูโอบี เคย์เฮียน(ประเทศไทย) เพิ่งออกบทวิเคราะห์ วันที่ 22 ก.ค. ให้ราคาเป้าหมายถึง 63 บาท บล.เอเชียเวลท์ มีมูลค่าเหมาะสม 58 บาท บล.หยวนต้า 56 บาท บล.โนมูระ พัฒนสิน 55 บาท เท่ากับบล.บัวหลวง โดยมองว่าธุรกิจปิโตรเคมีผ่านจุดต่ำสุดไตรมาส 2 แล้ว ความต้องการซื้อเริ่มฟื้นตัว และสเปรดดีขึ้น สนับสนุนให้ราคาหุ้นแข็งแรง
ล่าสุด 23 ก.ค. ราคาหุ้น PTTGC ปิดที่ 50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน แม้ว่าระหว่างวันจะปรับตัวลงไปต่ำสุดที่ 49 บาท ก็ตาม