ดาวโจนส์ปิดบวก 8 จุด วัคซีนต้านไวรัสคืบหน้า

HoonSmart.com>> ดาวโจนส์ปิดบวก 8 จุด วัคซีนต้านไวรัสคืบหน้า นักลงทุนเกาะติดผลดำเนินงานไตรมาส 2 บริษัทจดทะเบียน ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 ที่ 26,680.87 จุด เพิ่มขึ้น 8.92 จุด หรือ 0.03% และแรงซื้อในกลุ่มเทคโนโลยี ส่งผลให้ดัชนี Nasdaq ปรับตัวมากที่สุดรายวันในรอบ 12 สัปดาห์มาปิดที่ระดับสูงสุดใหม่ ขณะที่นักลงทุนเกาะติดการทะยอยรายงานผลการดำเนินงานไตรมาสสองของบริษัทจดทะเบียน

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 3,251.84 จุด เพิ่มขึ้น 27.11 จุด, +0.84%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,767.09 จุด เพิ่มขึ้น 263.90 จุด, +2.51%

นักลงทุนยังจับตาความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 จากการทดสอบในมนุษย์และการพิจารณามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจชุดใหม่

The Lancet วารสารทางการแพทย์ เปิดเผยว่า วัคซีนที่ AstraZeneca บริษัทผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดร่วมกันพัฒนา สามารถสร้างภูมิต้านทานเชื้อไวรัสโควิด-19 ในการทดลองเฟสแรกกับอาสาสมัครจำนวนมากกว่า 1,000 คน ขณะเดียวกันไฟเซอร์ อิงค์ บริษัทผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษและBioNTech จากเยอรมนีเปิดเผยว่า ร่างกายของอาสาสมัครการทดลองขั้นคลินิกกับในเยอรมนีสร้าง Anti-body ได้

หุ้นไฟเซอร์ เพิ่มขึ้น 0.72%

นักวิเคราะห์ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในหลายรัฐจนบางพื้นที่ต้องหันกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์บางส่วนกลบความหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแบบตัว V เพราะการล็อกดาวน์แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจอาจะกลับสู่ภาวะปกติได้ยาก ทำให้นักลงทุนตอบรับข่าวการพัฒนาวัคซีน

นอกจากนี้นักลงทุนยังจับตาการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมทั้งในสหรัฐฯและในประเทศอื่นๆ โดยนายมิทช์ แม็คดอนแนล ผู้นำเสียงข้างมากของวุฒิสมาชิกและนายสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีคลังจะพบกันในวันอังคารนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่า 3.5 ล้านล้านดอลลาร์ที่เสนอโดยวุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครต ขณะที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรเสนองบประมาณ 3 ล้านล้านสำหรับการตรรวจหาเชื้อไวรัส ให้ความช่วยเหลือผลกระทบจากไวรัสต่อเนื่องและวางมาตรฐานใหม่ด้านสาธารณสุข

ขณะเดียวกันผู้นำในสหภาพยุโรปกำลังพิจารณางบประมาณ 1.85 ล้านล้านยูโรและกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อสู้วิกฤติไวรัส

หุ้นอเมซอนดอทคอม เพิ่มขึ้น 7.93% หุ้นไมโครซอฟท์ เพิ่มขึ้น 4.3% หุ้นแอปเปิล เพิ่มขึ้น 2.11% หุ้นเฟซบุ๊ก เพิ่มขึ้น 1.4% หุ้นอัลฟาเบท เพิ่มขึ้น 3.1%

หุ้นโนเบิล เอนเนอร์จี ผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซ เพิ่มขึ้น 5.4% หลังจากเชฟรอน บริษัทน้ำมันรายใหญ่ของตกลงซื้อกิจการ ในวงเงิน 5 พันล้านดอลลาร์ หุ้นเชฟรอน ลดลง 2.24%

หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวลดลงจากคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งเปิดเผยว่า ความต้องการด้านการเดินทางในประเทศลดลง โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ลดลง 3.69% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ลดลง 4.69% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ลดลง 3.1%

ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นจากความคืบหน้าของทดสอบวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ในมนุษย์ โดยมีแรงซื้อนำในกลุ่มก่อสร้างและวัสดุก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น 1.4%

The Lancet วารสารทางการแพทย์ เปิดเผยว่า วัคซีนที่ AstraZeneca บริษัทผลิตยารายใหญ่ของอังกฤษ และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดร่วมกันพัฒนา สามารถสร้างภูมิต้านทานเชื้อไวรัสโควิด-19 ในการทดลองเฟสแรกกับอาสาสมัครจำนวนมากกว่า 1,000 คน

นอกจากนี้บริษัท Synairgen บริษัทยาในอังกฤษ เปิดเผยว่า การทดลองการรักษาในขั้นคลินิกของบริษัทได้ลดจำนวนผู้เข้ารับการรักษาโรคโควิด-19ในห้องไอซียูโรงพยาบาล

ผู้นำในสหภาพยุโรปกำลังพิจารณางบประมาณ 1.85 ล้านล้านยูโรและกองทุนฟื้นฟูเศรษฐกิจเพื่อสู้วิกฤติไวรัสที่มีวงเงินราว 700-750 พันล้านยูโรและคาดว่าตกลงกันได้ในวงเงินให้เปล่า 390 พันล้านยูโร

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 375.51 จุด เพิ่มขึ้น 2.80 จุด, +0.75%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,261.52 จุด ลดลง 28.78 จุด, -0.46%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,093.18 จุด เพิ่มขึ้น 23.76 จุด, +0.47%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,046.92 จุด เพิ่มขึ้น 127.31 จุด, +0.99%

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนสิงหาคมเพิ่มขึ้น 22 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 40.81ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 14 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 43.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล