เปิด 6 มุมมอง “วิลเลียม ไฮเน็ค” ส่งสัญญาณธุรกิจ “ไมเนอร์”


ครึ่งปีแรกของพ.ศ. 2563 ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เศรษฐกิจผันผวนมากกว่าวิกฤตเศรษฐกิจครั้งไหน ๆ มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส หรือสงครามทางการค้าระหว่างประเทศอันดุเดือด แม้แต่ในช่วงวิกฤตการเงินโลก (GFC) ปี 2551 ระบบเศรษฐกิจทั่วโลกก็ไม่ได้ถดถอยหนักเท่าครั้งนี้ ความปั่นป่วนของระบบเศรษฐกิจโลกกระทบหลายอุตสาหกรรมจนกิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอตัว ลามไปถึงภาคการลงทุน ที่ตลาดหุ้นไทยตกลงไปกว่า 570 จุดในช่วงไตรมาสแรกของปี ก่อนที่จะเด้งกลับขึ้นมา 400 กว่าจุด ในระหว่างไตรมาสที่สอง

ในขณะที่นักลงทุนเฝ้าติดตามทิศทางของตลาดอย่างใกล้ชิดเพื่อตัดสินใจเลือกลงทุนอย่างระมัดระวัง สิ่งที่ควรคำนึงถึงเมื่อพิจารณาตัวเลือกด้านการลงทุนคือ รากฐานองค์กรที่แข็งแกร่ง ความเข้าใจสถานการณ์เศรษฐกิจ และการเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ต่าง ๆ ขององค์กร ถึงจะเป็นการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

มร.วิลเลียม ไฮเน็ค ประธานกรรมการ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (มหาชน) หรือ MINT เปิดเผยว่า แม้ธุรกิจของไมเนอร์จะได้รับผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้จากเศรษฐกิจโลกที่ถดถอย แต่องค์กรยังมีความมั่นใจในประสบการณ์และความแข็งแกร่งของ ไมเนอร์ ซึ่งสามารถสะท้อนมาจากมุมมองต่าง ๆ ดังนี้

ย้อน 20 ปี กำไร ต่อเนื่อง

ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา ไมเนอร์มีผลการดำเนินงานที่มีกำไรอย่างต่อเนื่อง ภายใต้สถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 วิกฤตทางการเมืองในประเทศ และน้ำท่วมใหญ่ในปี 2554 ซึ่งเราสามารถฝ่าฟันไปได้ และทำให้เราขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยง พร้อมเพิ่มความหลากหลายในธุรกิจของเรา เช่นธุรกิจร้านอาหารในประเทศจีน ธุรกิจโรงแรมในต่างประเทศ อย่าง โอ๊คส์ โฮเทล ในออสเตรเลีย ทิโวลี โฮเทล และ เอ็นเอช โฮเทลส์ ในยุโรปและลาตินอเมริกา ปัจจุบัน ไมเนอร์ เป็นผู้นำกลุ่มธุรกิจ โรงแรม ร้านอาหาร และไลฟ์สไตล์ มีการจ้างงาน และสร้างอาชีพร่วมหลายหมื่นคน

โควิด-19 กระทบหมด มากน้อย อยู่ที่การปรับตัวของธุรกิจ

สถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลกในเวลานี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า มันส่งผลกระทบกับธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้จะเป็นปีที่ไม่ดีนัก แต่ไม่ใช่เพราะการดำเนินธุรกิจของบริษัท แต่เป็นสถานการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อทุกธุรกิจทั่วโลก ไมเนอร์ได้ปรับตัวทั้งการสร้างมาตรฐานสุขอนามัยสำหรับธุรกิจโรงแรม บริหารส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ที่บริษัทเป็นรายแรก ๆ ในประเทศไทย และยังเป็นผู้นำมาตลอด 20 กว่าปี ไปจนถึงการใช้ช่องทางออนไลน์ในการให้บริการ รวมทั้งการปรับธุรกิจให้เข้ากับวิถีชีวิตแบบใหม่ หรือ New Normal การลดต้นทุนต่าง ๆ เพื่อให้เราสามารถผ่านพ้นสถานการณ์โควิด-19 ครั้งนี้ไปให้ได้

เรากำลัง Reopening อย่างต่อเนื่อง

องค์กรเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของธุรกิจทั้งในและต่างประเทศแล้ว โรงแรมในกลุ่มไมเนอร์ โฮเทลส์ ทั้งในกรุงเทพมหานครและจังหวัดท่องเที่ยวอื่น ๆ ทั่วไทย ได้ทยอยเปิดให้บริการและพร้อมขานรับมาตรการเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยผู้ใช้บริการจะสามารถรับสิทธิ์ พร้อมสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ ห้องพักราคาพิเศษ ส่วนลดอาหาร เครื่องดื่ม สปา สิทธิ์อัพเกรดห้องพักในกรณีที่มีห้องว่าง สิทธิ์เช็คอิน เช็คเอ้าท์ ก่อนและหลังเวลาปกติ เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีเข้าพักฟรี บริการรถรับส่งสนามบิน ฯลฯ ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณอันดีของโรงแรมในประเทศไทยที่จะกลับมาครึกครื้น

ทุกโรงแรมในเครือไมเนอร์ ปลอดภัยและสุขอนามัยสูงสุด

นอกจาก มาตรการ “พักอย่างสบายใจ” (Stay with Peace of Mind) ของเครือโรงแรมอนันตราและมาตรการ “อวานี ชิลด์” (AvaniSHIELD) ของเครือโรงแรมอวานี ที่ได้รับประกาศนียบัตรมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจากโครงการ Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA ไมเนอร์ยังยกระดับมาตรฐานบริการด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อสุขอนามัยสูงสุดในธุรกิจต่าง ๆ โดยทำงานกับผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ อีโค่แล็บ (ECOLAB) กับไดเวอร์ซี่ (Diversey) เป็นต้น เพื่อเพิ่มคุณค่าการเข้าใช้บริการและรับมือสถานการณ์โควิด-19 นอกจากนี้ไมเนอร์ยังนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อสอดรับกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ที่พฤติกรรมของผู้คนเอนเอียงไปทางโลกดิจิทัลที่อำนวยความสะดวกและปลอดภัยต่อการติดโรคโควิด-19 ซึ่งจะช่วยองค์กรให้ทันตามโลกเศรษฐกิจ

ไมเนอร์ แข็งแรงและเข้มแข็ง

ที่ผ่านมา ไมเนอร์ได้ประกาศแผนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน ซึ่งเป็นแผนเบ็ดเสร็จในครั้งเดียว นอกจากจะทำให้ฐานะการเงินของเรามีความแข็งแกร่งขึ้น พร้อมรักษาวินัยทางการเงินแล้ว ยังสามารถรองรับวิกฤตโควิด-19 และไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนในอีก 2 ปีข้างหน้าอีกด้วย โดย

มร. วิลเลียม ในฐานะผู้ก่อตั้ง และ ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ MINT เผยว่าเขาจะใช้สิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนครั้งนี้และจะจองซื้อเกินกว่าสิทธิ ซึ่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า การเพิ่มทุนในครั้งนี้จะได้รับการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นและนักลงทุน และทำให้เราได้รับเงินทุนในครั้งนี้ครบตามจำนวน

ขอบคุณจากใจแก่นักลงทุนที่อยู่เคียงข้างกันตลอดมา

มร. วิลเลียมขอขอบคุณผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทุกท่านที่ยังคงเชื่อมั่นและให้การสนับสนุนธุรกิจของไมเนอร์มาเป็นอย่างดีและยาวนานมาร่วมกว่า 50 ปี หลายท่านถือหุ้นของไมเนอร์ ตั้งแต่เมื่อครั้งที่องค์กรนำ 3 ธุรกิจ คือ โรงแรม ร้านอาหาร และไลฟ์สไตล์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก่อนที่เราจะรวมทั้ง 3 ธุรกิจภายใต้ ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ MINT มาจนถึงปัจจุบัน และเราจะยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นของเราอย่างต่อเนื่องต่อไป ดังที่เราได้ทำมาตลอดในอดีต

อย่างไรก็ตาม แผนการเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน ซึ่งได้รับอนุมัติจากท่านผู้ถือหุ้นแล้ว ประกอบด้วยการออกหุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุน หรือ Perpetual bond ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งประสบความสำเร็จแล้ว และการออกหุ้นเพิ่มทุนในอัตราส่วน 8.2 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาเสนอขาย 17.50 บาท และการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 7 หรือ MINT-W7 ให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัท ตามสัดส่วนการถือหุ้น หลังเสร็จสิ้นการขายหุ้นเพิ่มทุนที่ 22 หุ้นสามัญเดิมต่อ 1 หน่วย โดยมีราคาใช้สิทธิแปลงสภาพ 21.60 บาท และสามารถใช้สิทธิได้ในระยะเวลา 3 ปี

ทั้งนี้ MINT ได้กำหนดช่วงเวลาจองซื้อและชำระเงินค่าจองซื้อหุ้นสามัญที่ออกใหม่ ระหว่างวันที่ 17-23 กรกฎาคม 2563 ตั้งแต่เวลา 09.00 – 16.00 น. โดยสามารถชำระเงินได้ที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โอนเงินผ่านระบบ Electronic Bill Payment ของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และเพื่ออำนวยความสะดวกและเป็นไปตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ผู้ถือหุ้นสามารถจองซื้อหุ้นผ่านทางระบบออนไลน์บนเว็บไซต์ www.bualuang.co.th หรือ สามารถยื่นเอกสารที่สำนักงานใหญ่ บริษัท หลักทรัพย์บัวหลวง จำกัด (มหาชน) เลขที่ 191 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 29 ถนนสีลม

นอกจากนี้ สำหรับผู้ถือหุ้นในต่างจังหวัด ผู้จองซื้อสามารถจองซื้อผ่านระบบออนไลน์ หรือ สามารถติดต่อบริษัทหลักทรัพย์ที่ท่านมีบัญชีเพื่อซื้อขายหลักทรัพย์ โดยทางบริษัทหลักทรัพย์ของท่านจะรวบรวมเอกสารการจองซื้อต่อไป