เชียร์สนั่นซื้อ CPALL ถูกน่าสน กำไรโตยั่งยืน

นักวิเคราะห์ประสานเสียงแนะนำซื้อหุ้น CPALL ประทับใจศูนย์กระจายสินค้า ระบบบริหารมีประสิทธิภาพสูงหนุนการเติบโตระยะยาว ส่วน MAKRO ปรับขึ้นมาแค่ถือ รอจังหวะเก็บหุ้น

นักวิเคราะห์หลายคนแนะนำให้ ”ซื้อ” หุ้น บริษัท ซีพี ออลล์ (CPALL) เช่น บล.บัวหลวงให้มูลค่าพื้นฐาน CPALL ที่ 95 บาท หลังกลับจากการไปเยี่ยมชมศูนย์กระจายสินค้าที่มหาชัย เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีความมั่นใจในการเติบโตระยะยาวมาก และปรับคำแนะนำหุ้นบริษัท สยามแม็คโคร (MAKRO) จาก ”ขาย” เป็น ”ถือ “มูลค่าพื้นฐาน 40.50 บาท” เนื่องจากราคาหุ้นปรับลงมาค่อนข้างมาก แต่ยังไม่แนะนำให้เข้าสะสมหุ้นในตอนนี้เนื่องจากแนวโน้มยังคงอ่อนแอ

“เราได้ไปเยี่ยมชมศูนย์กระจายสินค้าของ CPALL และ MAKRO และกลับมาด้วยความมั่นใจในการแนะนำ “ซื้อ” CPALL ว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่ดีที่สุดสำหรับการลงทุนระยะยาว เชื่อว่าประสิทธิภาพการดำเนินงานและการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะหนุนการเติบโตอย่างยั่งยืน และมูลค่าหุ้นน่าดึงดูดหลังจากที่ราคาปรับฐานลงมา โดยหุ้นซื้อขายที่พี/อี 28เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยระยะยาว” บล.บัวหลวงระบุ

ระบบศูนย์กระจายสินค้าของ CPALL ดีเยี่ยม โดย ศูนย์ฯที่มหาชัย กระจายสินค้าไปยังร้าน 7-Eleven ราว 2,000 แห่งในทางตะวันตกของกทม. ไปจนถึงภาคใต้ตอนบน เป็นคลังเก็บของแห้งและของแช่เย็น ซึ่งสามารถส่งของไปยังร้านได้ทุกวัน และยังสามารถส่งสินค้า 2 รอบต่อวันได้ในบางสาขา โดยระยะเวลาเก็บของแห้งอยู่ที่เพียง 4.9 วัน และใช้ระบบ cross docking สำหรับสินค้าแช่เย็นจึงไม่มีการเก็บสินค้าไว้ที่คลัง ข้อผิดพลาดในการกระจายสินค้า อาหารแห้งต่ำมาก แม้อัตราการผิดพลาดในส่วนสินค้าแช่เย็นจะสูงกว่ามาตรฐาน เล็กน้อย เนื่องจากพนักงานลาออกบ่อย แต่มองว่ายังอยู่ในระดับต่ำ

นอกเหนือจากการส่งสินค้าทั่วไปไปยังร้าน 7-Eleven แล้ว อาจขยายไปยังการส่งสินค้าให้กับ home shopping ซึ่งหากไอเดียนี้เกิดขึ้นจริง เชื่อว่าจะเป็นอัพไซด์อย่างมากสำหรับ CPALL เนื่องจากการซื้อสินค้าออนไลน์กำลังเติบโตแรง

ทางด้านบล.กสิกรไทย แนะนำ “ซื้อ” หุ้น CPALL ราคาเป้าหมาย 97 บาท และแนะนำ”ถือ” MAKRO ราคาเป้าหมาย 42 บาท ทางผู้บริหารฯ มีมุมมองเป็นบวกต่อการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ของ 7-ELEVEN ในเดือน มิ.ย. ที่ปรับดีขึ้นจากเดือน เม.ย. – พ.ค.ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2561 น่าจะยังคงได้รับผลกระทบจาก ราคาอาหารที่ปรับตัวลง, ฝนที่ตกมากกว่าปกติ ทั้งนี้เราคงประมาณการเติบโตของกำไรทั้งสองบริษัทเช่นเดิม อัตราการเติบโต 3 ปีเฉลี่ย 14.4% สำหรับ CPALL และ 7.5% สำหรับ MAKRO

ส่วนบล.ทรีนีตี้ ให้ราคาเป้าหมายสูงถึง 101 บาท จากความประทับใจศูนย์ฯมหาชัย มองว่าผลการดำเนินงานยังสามารถเติบโต และมีสัญญาณการจับจ่ายเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะช่วงฟุตบอลโลก