GULF ลุยซื้อวินด์ฟาร์มเยอรมนี 464.8 MW มูลค่า 1.95 หมื่นลบ.จ่อบุ๊ครายได้ทันที

HoonSmart.com>> กัลฟ์ เอ็นเนอร์จีฯ ซื้อโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเลประเทศเยอรมนี มูลค่าลงทุนประมาณ 19,219 – 19,570 ล้านบาท กำลังผลิต 464.8 เมกะวัตต์ ถือหุ้นสัดส่วน 50% เริ่ม COD เดือนเม.ย.62 มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปี รับรู้รายได้และกำไรทันทีหลังโอนหุ้น “บล.หยวนต้า” ชี้เป็นบวก GULF คาดเบื้องต้นส่วนแบ่งกำไร 1,200 – 1500 ล้านบาท หนุนประมาณการกำไรเพิ่มขึ้นกว่า 25%

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เปิดเผยว่า Gulf International Holding Pte. Ltd. (GIH) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้เข้าทำสัญญาซื้อขายหุ้น (Share Purchase Agreement) กับกลุ่ม Global Infrastructure Partners (GIP) เพื่อซื้อหุ้นทั้งหมดของ Borkum Riffgrund 2 Investor Holding GmbH, Frankfurt am Main, Germany (BKR2 Holding) ซึ่งถือหุ้นในสัดส่วน 50% ในโครงการ Borkum Riffgrund 2 Offshore Wind Farm GmbH & Co. oHG (โครงการ BKR2) มูลค่าการลงทุนประมาณ 548 – 558 ล้านยูโร หรือประมาณ 19,219 – 19,570 ล้านบาท โดยส่วนที่เหลืออีก 50% ถือหุ้นโดยบริษัทในกลุ่ม Ørsted A/S (Ørsted) เดิมชื่อ DONG Energy โดยสัญญามีผลใช้บังคับในวันที่ 3 ก.ค.2563

โครงการ BKR2 เป็นโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเล (Offshore Wind Farm) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 464.8 เมกะวัตต์ ขนาดกำลังการผลิตส่งออก 450.0 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ในทะเลเหนือ (North Sea) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเยอรมนี ซึ่งโครงการดังกล่าวได้เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ตั้งแต่เดือนเม.ย.2562 โดยมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement: PPA) และสัญญาบำรุงรักษา (Operation & Maintenance Agreement: O&M Agreement) กับกลุ่มบริษัท Ørsted เป็นระยะเวลา 20 ปีจากวันที่เปิดดำเนินการ

นอกจากนี้ โครงการ BKR2 ยังมีอัตรารับซื้อไฟฟ้าแบบfeed-in tariff (FiT) ที่รับประกันโดยรัฐบาลประเทศเยอรมนี เป็นระยะเวลา 9.5 ปี หลังจากเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ และจะได้รับค่าไฟฟ้าตาม merchant price โดยมีการรับประกันราคาขั้นต่ำสำหรับปีที่ 9.5 – 20 จึงส่งผลให้โครงการดังกล่าวมีเสถียรภาพทางรายได้ในระยะยาว

บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของโครงการ BKR2 ที่สอดคล้องกับนโยบายของบริษัทฯ ในการขยายธุรกิจไปยังพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศ โดยพิจารณาแล้วเห็นว่าโครงการ BKR2 มีผู้ร่วมทุนที่แข็งแกร่งอย่าง Ørsted ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำที่มีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจพลังงานลมในทะเล โดยมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมในทะเลติดตั้งทั่วโลกรวม 6.8 กิกะวัตต์และอีก 3.1 กิกะวัตต์ ที่จะสร้างเสร็จภายในปี 2565 ในหลายประเทศ อาทิ สหราชอาณาจักร ประเทศเยอรมนี ประเทศเดนมาร์ก สหรัฐอเมริกา เป็นต้น

นอกจากนี้ Ørsted ยังมีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจดังกล่าวกว่า 25 ปี และเป็นผู้ดำเนินโครงการ BKR2 ซึ่งจะทำให้สามารถร่วมงานด้วยกันต่อไปเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านธุรกิจพลังงานหมุนเวียนของบริษัทฯ อีกทั้งเป็นการยกระดับความน่าเชื่อถือและเพิ่มโอกาสในการแข่งขันในระดับสากลอีกด้วย

นอกจากนี้เนื่องจากเป็นโครงการที่เปิดดำเนินการแล้ว บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้และกำไรได้ทันทีหลังจากการโอนหุ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มฐานรายได้และกำไรของบริษัทฯ ให้เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ด้านบริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) มองเป็นบวกต่อ GULF หลังประกาศเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าลมในทะเลในเยอรมันขนาด 465 MW ถือ 50% คาดเบื้องต้นกำไรตามสัดส่วนที่ราว 1,200 – 1500 ล้านบาทต่อปี มีส่วนเพิ่มจากประมาณการกำไรของ Consensus กว่า 25%