ปิดฉากกองทุน SSFX กวาด 8.8 พันลบ. แรงซื้อกระจุกตัว 5 บลจ.

HoonSmart.com>>”มอร์นิ่งสตาร์” เผยกองทุน SSFX กวาดเงินลงทุน 3 เดือน มูลค่าสินทรัพย์แตะ 8,885 ล้านบาท นักลงทุนเร่งซื้อก่อนปิดโครงการ 4 วันสุดท้ายประมาณ 600-2,000 ล้านบาทต่อวัน ซื้อกระจุกตัว 5 บลจ.กว่า 86%

บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า กองทุน SSF พิเศษหรือ SSFX ที่เปิดให้ลงทุนเพื่อโอกาสการลดหย่อนภาษีแบบพิเศษ 200,000 บาท นอกเหนือจากวงเงินเดิมนั้น ณ สิ้นเดือนมิ.ย.2563 มีกองทุน SSFX รวม 20 กองทุนจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) 15 แห่ง ทั้งรูปแบบกองทุนตราสารทุนและกองทุนผสม เน้นลงทุนในหุ้นไทย มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวมทั้งสิ้น 8,885 ล้านบาท โดยเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิเร่งตัวขึ้นในช่วงท้ายของเดือนมิ.ย.2563 โดยเฉพาะช่วง 4 วันสุดท้ายมีเงินไหลเข้าวันละ 600-2,000 ล้านบาท

“จากเริ่มต้นกองทุน SSFX ค่อนข้างได้รับความสนใจในช่วงแรกของการเปิดขาย ในขณะที่ช่วงปลายเดือนเม.ย.-พ.ค.มีเม็ดเงินไหลเข้าค่อนข้างจำกัด ซึ่งอาจเกิดจากภาวะตลาดผันผวน หรือผู้ลงทุนบางส่วนอาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคระบาดที่กระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ เมื่อเข้าสู่เดือนมิ.ย.ที่เป็นเดือนสุดท้ายของการลงทุนกองทุน SSFX จะเห็นได้ว่าเริ่มมีเม็ดเงินไหลเข้ากองทุน SSFX มากขึ้นรายวันในช่วง 4 วันสุดท้าย ซึ่งเป็นลักษณะคล้ายกับกองทุน LTF ที่มักมีเงินไหลเข้ากระจุกตัวในช่วงท้ายของปี

สำหรับบลจ.ไทยพาณิชย์ ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิกองทุน SSFX รวมสูงสุด 2,325 ล้านบาท รองลงมา บลจ.บัวหลวง 1,975 ล้านบาท บลจ.กสิกรไทย 1,690 ล้านบาท บลจ.กรุงศรี 1,129 ล้านบาทและบลจ.ยูโอบี 497 ล้านบาท

ทั้งนี้ หากรวมมูลค่ากองทุน SSFX จาก 5 บลจ.ที่มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิสูงสุดแล้วจะพบว่ามีส่วนแบ่งตลาดที่ค่อนข้างกระจุกตัวหรือ 86% ของมูลค่ากองทุน SSFX ทั้งหมด โดยบลจ.ไทยพาณิชย์มีส่วนแบ่งตลาดสูงสุด 26% ซึ่งมาจาก 3 กองทุนที่เปิดขายพร้อมกันในช่วงแรกหรือต้นเดือนเม.ย. ถัดมาที่บลจ.บัวหลวงมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับสองที่ 22% จากการเปิดขายกองทุนหุ้นกองแรกในเดือนเม.ย.และเปิดกองทุนผสมเพิ่มอีก 1 กองทุนช่วงต้นเดือนมิ.ย.

สำหรับบลจ.กสิกรไทยมีส่วนแบ่งตลาดที่ 19% ด้วยการเปิดขาย 1 กองทุนตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน คือ กองทุน K Super Star Savings Fund Extra ซึ่งเป็นกองทุน SSFX ขนาดใหญ่ที่สุดในปัจจุบัน สำหรับบลจ.กรุงศรี และบลจ.ยูโอบีเปิดขายรายละ 1 กองทุนในช่วงเดือนเม.ย.เช่นกัน โดยมีส่วนแบ่งตลาดที่ 13% และ 6% ตามลำดับ

นอกจากกองทุน SSFX ที่หมดช่วงของการลงทุนเพื่อประหยัดภาษีแล้ว ยังมีกองทุน SSF ที่เปิดให้ลงทุนจนถึงสิ้นปี ซึ่งจะมีกองทุนที่มีความหลากหลาย ทั้งลงทุนในตราสารหนี้ ตราสารทุน และอื่น ๆ ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งต่อจากนี้ไปจะมีกองทุน SSF เปิดใหม่ให้นักลงทุนได้เลือกพิจารณาลงทุนได้มากขึ้น ตามความเหมาะสมกับแผนการลงทุนระยะยาวพร้อมกับได้ลดหย่อนภาษี ทั้งนี้นักลงทุนควรทำความเข้าใจนโยบายกองทุน เงื่อนไขการลงทุนตามสิทธิ์ก่อนการลงทุนทุกครั้งเพื่อประโยชน์สูงสุดของนักลงทุน