HoonSmart.com>> “ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล” ออกหุ้นกู้ 300 ล้านเหรียญฯ มูลค่าประมาณ 9.5 พันล้านบาท เสนอขายนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ ดอกเบี้ย 3.10% ต่อปี นำเงินชำระคืนเงินกู้ เสริมสภาพคล่อง เผยนักลงทุนจองซื้อล้น 11 เท่าของมูลค่าเสนอขาย เดินหน้าเพิ่มทุนไตรมาส 3/63 หนุนฐานะการเงินแกร่งฝ่าวิกฤติ
บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) แจ้งว่า บริษัทฯ ได้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ประเภทไม่ด้อยสิทธิและมีประกันชุดใหม่ให้กับนักลงทุนสถาบันต่างประเทศ จำนวนรวม 300 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา โดยมีธนาคารกรุงเทพเป็นผู้ค้ำประกัน เพื่อนำเงินไปชำระคืนเงินกู้และเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของบริษัท
สำหรับหุ้นกู้ดังกล่าวไม่กำหนดอายุ โดยจะออกในวันที่ 29 มิ.ย.2563 และวันไถ่ถอนก่อนกำหนดวันแรก 29 มิ.ย.2566 กำหนดอัตราดอกเบี้ย 3.10% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก 6 เดือน
บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุนสกุลเงินเหรียญสหรัฐ ประเภทไม่ด้อยสิทธิและมีประกันอายุ 3 ปี ในตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศ จำนวน 300 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยหุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับเครดิตจากบริษัทมูดีส์ที่ระดับ Baa2 และจากบริษัทฟิทช์ เรทติ้งส์ที่ระดับ BBB และมีการค้ำประกันโดยไม่มีเงื่อนไขและไม่สามารถเพิกถอนได้จากธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) สาขาฮ่องกง
หุ้นกู้ดังกล่าวมีอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ 3.10% ต่อปี ซึ่งต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนเริ่มต้น (Initial Price Guidance) ถึง 0.7% ด้วยยอดจองที่สูงกว่ายอดที่จัดสรรถึง 11 เท่า ณ จุดสูงสุดของการทำการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ (Book Building) จากการสนับสนุนที่อย่างเต็มที่จากนักลงทุนต่างประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของตลาดที่มีต่อ MINT โดย 88% ของหุ้นกู้ได้ถูกจัดสรรให้กับนักลงทุนในทวีปเอเชีย
ส่วนที่เหลืออีก 12% ได้ถูกจัดสรรให้กับนักลงทุนในทวีปยุโรป อีกทั้งประมาณ 87% ของหุ้นกู้ได้ถูกจัดสรรให้กับผู้จัดการกองทุนและบริษัทประกัน โดยเงินที่ได้รับจากการขายหุ้นกู้ดังกล่าวนี้ จะถูกนำไปชำระคืนเงินกู้ที่มีอยู่เดิมและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
ทั้งนี้ หุ้นกู้จะถูกบันทึกเป็นส่วนของผู้ถือหุ้นของ MINT ภายใต้มาตรฐานการบัญชี TAS 32 ทั้งนี้ ธนาคาร HSBC เป็น Sole Global Coordinator และร่วมกับธนาคาร ANZ, BofA Securities และ Standard Chartered เป็น Joint Bookrunners ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้
การออกหุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุนในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนการสร้างความแข็งแกร่งของโครงสร้างเงินทุนแบบเบ็ดเสร็จตามที่ได้ประกาศไปก่อนหน้านี้ โดยนอกเหนือจากความสำเร็จในการออกหุ้นกู้จำนวนประมาณ 9.5 พันล้านบาทในครั้งนี้ เมื่อวันศุกร์ที่ 19 ม.ย.ผ่านมา ที่ประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้นได้อนุมัติแผนการจัดหาเงินทุน ซึ่งรวมถึงการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 1 หมื่นล้านบาท และการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญซึ่งมีอายุ 3 ปีจำนวน 5 พันล้านบาท โดยคาดว่าการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนและการออกใบสำคัญแสดงสิทธิจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3 ของปี 2563
ทั้งนี้ แผนการจัดหาเงินทุนทั้งหมดจำนวน 2.5 หมื่นล้านบาท ด้วยทั้ง 3 เครื่องมือทางการเงินดังกล่าว จะช่วยให้ MINT มีสภาพคล่องท่ามกลางช่วงเวลาที่มีความไม่แน่นอนจากการระบาดของโรค COVID-19 พร้อมทั้งช่วยสร้างความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงินจากส่วนของผู้ถือหุ้นที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ การบริหารจัดการเงินทุนอย่างรอบคอบดังกล่าว จะส่งผลให้ฐานะทางการเงินของ MINT มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ด้วยอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่คาดว่าจะกลับมาอยู่ที่ 1.3 เท่าภายในสิ้นปี 2563 ซึ่งเป็นระดับเป้าหมายภายในของบริษัท และจะช่วยให้ MINT สามารถที่จะได้รับประโยชน์จากโอกาสในการเติบโตในตลาดหลักทั่วโลกหลังจากการระบาดของโรค COVID-19
นอกจากนี้ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นในการจัดการโครงสร้างเงินทุน MINT ได้รับการอนุมัติจากเจ้าหนี้ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงผู้ถือหุ้นกู้และเจ้าหนี้ธนาคาร ในการแก้ไขข้อกำหนดเกี่ยวกับเงื่อนไขการดำรงอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นให้อยู่ที่ต่ำกว่า 1.75 เท่า โดยยินยอมให้ยกเว้นการทดสอบอัตราส่วนดังกล่าว ในอีก 3 ไตรมาสต่อจากนี้ จนถึงสิ้นปี 2563
“เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นกู้ที่มีลักษณะคล้ายทุนในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการยืนยันถึงแรงสนับสนุนของตลาดที่มีต่อ MINT และกลยุทธ์ในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของฐานะการเงินของ MINT โดยขั้นตอนต่อไปสำหรับบริษัทคือการดำเนินการจัดหาเงินทุนให้สำเร็จตามแผนที่ได้วางไว้” นายไบรอัน เดลานี่ ประธานเจ้าหน้าที่การเงินกล่าว
พร้อมระบุว่า บริษัทได้ผ่านจุดวิกฤติสุดของการระบาดของโรค COVID-19 ในเดือนเมษายนมาแล้ว และบริษัทพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าและสร้างการเติบโตต่อไป โดย MINT อยู่ในระหว่างการดำเนินการวางแผน “Business Beyond COVID” เพื่อให้ธุรกิจในเครือทั้ง 3 กลุ่มธุรกิจปรับตัวและรองรับการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของผู้บริโภค สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราจะยังคงมีความมุ่งมั่นที่จะปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้น
อ่านข่าว
MINT เคาะราคาหุ้นเพิ่มทุนสัปดาห์นี้ ชูธุรกิจฟื้น ถึงจุดคุ้มทุนเร็วขึ้น