CK-STEC รับรัฐโหมลงทุน PYLON-SEAFCO เด่น

HoonSmart.com>>แรงเชียร์ CK โดดเด่น รัฐทุ่มลงทุน  บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ยันหนุนกลุ่มฐานราก PYLON-SEAFCO เป้าหมาย 5.72-6.71 บาท ส่วน CK-STEC ตีมูลค่า 24 – 25 บาท บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง แนะ CK ที่ราคา 24 บาท ราคาถูก รับงานรถไฟฟ้าสายสีส้ม-สีม่วง ประมูลงานใหม่ บล.ฟินันเซียฯเชียร์ CK-STEC-SEAFCO-PYLON บล.หยวนต้า ให้แค่ CK-STEC

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า การลงทุนของภาครัฐฯยังไม่มีข้อสรุปว่าจะลงทุนในทิศทางใด แต่หากมีการลงทุนด้านการก่อสร้าง จะส่งผลให้หุ้นที่ทำธุรกิจฐานรากจะได้ประโยชน์มากกว่าธุรกิจงานโครงสร้าง เนื่องจากรับงานโครงการขนาดใหญ่มากกว่า เช่นงานรถไฟฟ้า หรือรถไฟความเร็วสูง ให้หุ้น PYLON และ SEAFCO ที่ราคา Consensus 5.72 บาท และ 6.71 บาท ตามลำดับ ส่วนหุ้นงานสร้างให้ CK และSTEC ที่ราคาเป้าหมาย 24 บาทและ 25 บาท

ด้านนายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า CK จะได้ประโยชน์จากการลงทุนภาครัฐในรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตกมูลค่าประมาณ 1.2 แสนล้านบาท คาดว่าจะประมูลในเดือน ก.ค. 2563 สายสีม่วงใต้มูลค่าประมาณ 1.07 แสนล้านบาท คาดประมูลช่วงไตรมาส 4  รวมถึงรถไฟทางคู่ 2 เส้นทาง คาดว่าจะเริ่มในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปี 2564

“หุ้น CK  ราคายังต่ำ และตลาดยังคาดหวังหุ้นฟื้นกลับมาดีในช่วงหลังของปีนี้ รวมถึง Backlog มีไม่มาก และพร้อมประมูลงานใหม่ๆ โดยราคาเหมาะสม 24 บาท”นายวิจิตรกล่าว

นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า   กลุ่มรับเหมาก่อสร้างได้ประโยชน์มากที่สุดจากการลงทุนภาครัฐ ทั้งรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก สายสีม่วงใต้ และการก่อสร้างถนนหรือสะพานต่างๆ จากวงเงินที่ภาครัฐไปประมาณ 4 แสนล้านบาท ให้หุ้นโครงสร้างพื้นฐาน CK ที่ 22 บาท และ STEC ที่ 23 บาท รวมถึงหุ้นฐานราก SEAFCO ที่ 6.90 บาท และ PYLON ที่ 6.80 บาท

ด้านนายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ยังต้องจับตางบประมาณแผ่นดินปี 2564คาดว่าจะใกล้เคียงปี 2563 มองว่าจะออกมาประมาณเดือน ตุลาคม ปีนี้ แนะนำซื้อหุ้นโครงสร้างพื้นฐาน CK จากงานประมูลรถไฟฟ้า ที่แนวต้าน 22 บาท STEC จากยอด Backlog ที่สูง ให้แนวต้านที่ 17 บาท