ก.ล.ต.เผยศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลแพ่งลงโทษผู้กระทำผิดอินไซด์หุ้น GLOBAL

HoonSmart.com>> ก.ล.ต.เผยศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลแพ่ง ลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด “สุรศักดิ์ จันโทริ-เอกกมล จันโทริ” กรณีอาศัยข้อมูลภายในซื้อหุ้น GLOBAL สั่งปรับ 8.5 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลแพ่ง กำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด นายสุรศักดิ์ จันโทริ” และ นายเอกกมล จันโทริ กรณีอาศัยข้อมูลภายในซื้อหุ้น บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL) โดยให้ นายสุรศักดิ์ ชำระเงินจำนวน 522,500 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตรา 7.5% ต่อปีของผลประโยชน์ที่ นายสุรศักดิ์ พึงได้รับจากการกระทำความผิดนับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จ และให้ นายเอกกมล ชำระเงินจำนวน 333,333.33 บาท เพื่อนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน

หลังจากที่คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับนายสุรศักดิ์และนายเอกกมล กรณีบุคคลทั้งสองซื้อหุ้นบริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL) เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2555 โดยอาศัยข้อมูลภายในแต่นายสุรศักดิ์และนายเอกกมลไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งดังกล่าว ต่อมาเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2561 พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องคดีนายสุรศักดิ์และนายเอกกมลต่อศาลแพ่ง ตามที่ ก.ล.ต. ส่งเรื่องเพื่อขอให้ศาลกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งกับนายสุรศักดิ์และนายเอกกมล เป็นคดีหมายเลขดำที่ พ. 1060/2561 ระหว่าง ก.ล.ต. โจทก์ นายสุรศักดิ์ จำเลยที่ 1 และนายเอกกมล จำเลยที่ 2

เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2562 ศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาเป็นคดีหมายเลขแดงที่ พ.899/2562 ให้นายสุรศักดิ์ ชำระเงินจำนวน 522,500 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของเงินจำนวน 22,500 บาท นับตั้งแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จ และให้นายเอกกมล ชำระเงินจำนวน 333,333.33 บาท เพื่อนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน ต่อมาเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2563 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลแพ่ง (หมายเลขคดีดำ 2374/2562 หมายเลขคดีแดง 6984/2563) ซึ่งคดีถึงที่สุดแล้วตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า คดีนี้เป็นกรณีการกระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ที่ดำเนินคดีโดยใช้มาตรการลงโทษทางแพ่ง ขึ้นสู่ศาลแพ่ง และศาลได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดเป็นคดีแรก โดยระยะเวลาตั้งแต่ที่พนักงานอัยการฟ้องคดีต่อศาลจนถึงวันที่ศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาใช้เวลารวม 2 ปี 3 เดือน ซึ่งถือว่าเป็นระยะเวลาที่รวดเร็ว และหากจำเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา ก.ล.ต. จะดำเนินการบังคับคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป