SSP ปลื้มเข้าดัชนี SETCLMV ลุยวินด์ฟาร์มเวียดนาม 48 MW ตามแผน

HoonSmart.com>> เสริมสร้าง พาวเวอร์ฯ “ผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าไซส์เล็ก” ปลื้ม! ถูกดึงเข้าดัชนี SETCLMV ตอกย้ำมุ่งมั่นขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าเพื่อนบ้าน “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์” CEO มั่นใจรายได้-กำไร ปี 63 นิวไฮ บุ๊ครายได้โซลาร์ฟาร์มเวียดนาม-มองโกเลียเต็มปี COD โรงไฟฟ้ายามากะ เร็วกว่ากำหนด พร้อมเดินหน้าก่อสร้างวินด์ฟาร์มเวียดนาม 48 MW ตามแผน คาด COD ปี 64

วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์

นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) เปิดเผยถึงกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คัดเลือกให้ SSP เป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ที่ใช้สำหรับคำนวณดัชนี SETCLMV ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2563 (1 กรกฎาคม – 31 ธันวาคม) ว่า ถือเป็นการตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นในการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าของบริษัทฯ โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตในมือจำนวน 135 เมกะวัตต์ ส่วนหนึ่งเป็นการลงทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์มเวียดนามขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 49.61 เมกะวัตต์ มีสัญญาขายไฟฟ้าเป็นระยะเวลา 20 ปี ซึ่งมีการจ่ายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์แล้ว ตั้งแต่ปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ SETCLMV เป็นดัชนีที่รวบรวมบริษัทจดทะเบียนของไทย ที่มีการทำธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLMV ซึ่งมีแนวโน้มอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจโดดเด่น โดยหลักเกณฑ์การเลือกหุ้นมาจาก มีสัดส่วนรายได้จาก CLMV ต่อรายได้รวมของบริษัทอย่างน้อย 10% มูลค่ารายได้จาก CLMV อย่างน้อย 100 ล้านบาท มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดอย่างน้อย 5,000 ล้านบาท มีสัดส่วนการกระจายหุ้นอย่างน้อย 20%

“มั่นใจว่าแนวโน้มรายได้และกำไรจากการดำเนินงานในปีนี้ของ SSP จะสร้างสถิติสูงสุดใหม่ตามแผน จากการรับรู้รายได้โซลาร์ฟาร์มเวียดนาม และมองโกเลียเต็มปี และล่าสุดโรงไฟฟ้ายามากะในประเทศญี่ปุ่นขนาดกำลังการผลิตตามสัญญา 30 เมกะวัตต์ ได้มีการขายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์ (COD) ในวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าเร็วกว่ากำหนด”นายวรุตม์ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทฯยังอยู่ระหว่างก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาดกำลังการผลิต 48 เมกะวัตต์ ในประเทศเวียดนาม ซึ่งมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) และกำหนดขายไฟเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ในช่วงกลางปี 2564 อีกทั้งยังอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนโครงการพลังงานทดแทนอื่นๆ

“เรายังคงมองหาลู่ทางการขยายการลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ๆ เข้ามาเติมพอร์ตต่อเนื่อง สอดคล้องกับรายได้และกำไรที่เติบโตสูงมาตลอด โดยในปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าเพิ่มเติม คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปี 2563 เพื่อไปสู่เป้าหมายกำลังการผลิตไฟฟ้าในมือเพิ่มเป็น 400 เมกะวัตต์ภายใน 3-5 ปีข้างหน้า”นายวรุตม์กล่าว