HoonSmart.com>>”อินโดรามา เวนเจอร์ส” เตะตานักลงทุน แรงเก็บหุ้นแน่น หลังราคาลงแรงเกิน 10% คาดกำไรไตรมาส 2 ฟื้นตัว นักวิเคราะห์เห็นต่างผลประกอบการทั้งปีนี้ ตีมูลค่าเหมาะสมห่างกันมาก
บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) เริ่มติดเครื่อง มูลค่าการซื้อขายสูงกว่า 1,000 ล้านบาท/วัน เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปกติเฉลี่ย 500-600 ล้านบาท สวนทางกับราคาหุ้นที่ปรับตัวลงติดต่อกัน 6 วัน จากระดับ 33.25 บาท ไหลลงมาประมาณ 15% เหลือ 28 บาท ก่อนจะฟื้นตัวแรง เมื่อวานนี้ 5.36% +1.50 บาท ปิดที่ 29.50 บาท แต่ยืนไม่อยู่ ปรับตัวลงต่อ ปิดที่ 28.75 บาท -0.75 บาทหรือ 2.54% มูลค่าการซื้อขาย 1,322 ล้านบาท สวนทางตลาดโดยรวมบวก 9 จุด วันที่ 17 มิ.ย. 2563
มาร์เก็ตติงกล่าวว่า ในช่วงนี้ นักลงทุนเริ่มหันมาสนใจหุ้น IVL เห็นได้จากมูลค่าการซื้อขายหุ้นที่สูงติด1 ใน 20 อาจจะเนื่องจากราคาหุ้นปรับตัวลงไปมากพอสมควร และกำไรไตรมาส 2/2563 มีแนวโน้มฟื้นตัว เพราะไม่มีขาดทุนสต็อก และขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนมากเหมือนไตรมาส 1 ขณะที่ธุรกิจหลักได้รับอานิสงส์จากหลายประเทศมีการผ่อนคลายล็อกดาวน์ และบริษัทมีการซื้อกิจการใหม่อย่างต่อเนื่อง เมื่อเร็วๆนี้ได้เข้าซื้อโรงงานรีไซเคิล PET ในประเทศบราซิล มีกำลังการผลิตรวมประมาณ 9,000 ตันต่อปี
อย่างไรก็ตามในเดือนมิ.ย. 2563 นักวิเคราะห์ 4 รายมีการปรับปรุงบทวิเคราะห์ กลับมีความคิดเห็นแตกต่างกัน ล่าสุด วันที่ 17 มิ.ย. บล.กสิกรไทย แนะนำให้ถือ ให้ราคาเป้าหมาย 32 บาท คาดว่าในปีนี้บริษัทจะมีกำไรต่อหุ้นถึง 2.06 บาท เติบโต 104% จากปีก่อน ขณะที่ไตรมาส 1 ทำได้เพียง 0.07 บาทต่อหุ้น เทียบกับ 0.61 บาทในช่วงเดียวกันปีก่อน
บล.ทรีนีตี้เพิ่งออกบทวิเคราะห์ฉบับปรับปรุง วันที่ 10 มิ.ย.แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายถึง 41 บาท เทรดที่ P/E 21.7 เท่า อัตราผลตอบแทนปันผล 4.3% คาดกำไรต่อหุ้นในปีนี้ เพียง 1.29 บาท ลดลง 50% จากปีก่อน และปี 2564 ฟื้นตัว 48.8% และบล.ทิสโก้ แนะนำให้”ขาย” ตีมูลค่าเหมาะสมเพียง 26 บาท บน P/E เพียง 16.5 เท่า อัตราผลตอบแทนปันผล 3.0% คาดบริษัทมีกำไรต่อหุ้นปีนี้ 1.70 บาทลดลง 32.8%
ปัจจุบันมีนักวิเคราะห์ 15 คน วิเคราะห์หุ้น IVL ให้ราคากลาง 32 บาท แต่ส่วนใหญ่คือ 8 คนแนะนำให้ซื้อ
บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) โดย Duladeth Bik ได้ออกบทวิเคราะห์เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2563 ลดน้ำหนักหุ้น IVL จาก”ถือ” เป็น “เต็มมูลค่าแล้ว” ให้ราคาเป้าหมายเพียง 24 บาท ใน 12 เดือนข้างหน้า บน P/E 16 เท่า คาดแนวโน้มผลงานไตรมาส 2/2563 ฟื้นตัว ธุรกิจ PET ยังไปได้ดี แต่อาจเป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราวในช่วงมีโควิด-19 ขณะที่ประเทศต่างๆทยอยผ่อนคลายล็อกดาวน์ ราคาวัตถุดิบมีโอกาสที่จะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีกำลังการผลิตใหม่ของ PET และ PTA เข้ามาโดยเฉพาะจากจีน รวมถึงการแบนใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทำให้อุปสงค์ชะลอตัว อย่างไรก็ดี ผลกระทบส่วนหนึ่งถูกกระทบจากกำลังการผลิต PX ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่เข้ามาเพิ่ม
บล.ดีบีเอสฯระบุว่า IVL มีกำไรสุทธิ 570 ล้านบาท ไตรมาส 1/2563 ทรุดลงจากกำไรสุทธิ 3,707 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2562 และขาดทุนสุทธิ 1,500 ล้านบาทในไตรมาส 4/2562 ซึ่งดีกว่าที่เราคาด เพราะมีกำไรจากการต่อรองในการซื้อกิจการที่ไม่ได้อยู่ในประมาณการ แต่แย่กว่าที่ตลาดประเมินไว้ 37%
ในไตรมาส 1/2563 กำไรจากธุรกิจหลักดีขึ้นจากไตรมาสก่อน เพราะการทำงบการเงินรวมกับ Huntsman และความต้องการ PET ดีขึ้น โดยหลักมาจากสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์ประเภทไฮยีน เนื่องจากมีการเร่งกักตุนในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 และต้นทุนวัตถดิบต่ำ
ด้าน IVL แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่า ปี2563 บริษัทมีความมั่นใจในโครงสร้างธุรกิจ ซึ่งมีฐานการผลิตทั่วโลก ทำให้เกิดระบบนิเวศน์ในระดับภูมิภาค ลักษณะของผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่มีความไม่ยืดหยุ่นทางอุปสงค์ส่งผลให้บริษัทสามารถขายได้อย่างต่อเนื่องและสร้างกระแสเงินสดจากการดำเนินงานต่อไป
สถานการณ์ในปัจจุบันและหลังโควิด บริษัทยังคงมุ่งเน้นการบริหารจัดการความเสี่ยงระยะสั้นและการทำกำไร พร้อมมองหาโอกาสใหม่ๆในสถานการณ์โลกปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป