‘เอ็มเอฟซี’ ออกกองทุน MCHINA ลงทุนหุ้นจีน A-Shares ศักยภาพเติบโต

HoonSmart.com>> บลจ.เอ็มเอฟซี เปิดตัวกองทุน “เอ็มเอฟซี ไชน่า อิควิตี้” ลงทุนตลาดหุ้นจีน A-Shares เน้นลงทุนหุ้นที่มีศักยภาพเติบโตในระยะยาวเสนอขายครั้งแรก 22 มิ.ย.- 1 ก.ค. 63 โอกาสสร้างผลตอบแทนจากแดนมังกร

ธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์

นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บลจ.เอ็มเอฟซี ออกกองทุนเปิดเอ็มเอฟซี ไชน่า อิควิตี้ (MCHINA) เปิดขายครั้งแรกวันที่ 22 มิ.ย.- 1 ก.ค.2563 ลงทุนขั้นต่ำได้ตั้งแต่ 1,000 บาท ซึ่งเป็นกองทุนรวมประเภท Feeder Fund มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุน Allianz China A-Shares (กองทุนหลัก) ซึ่งบริหารโดย Allianz Global Investors GmbH เพียงกองทุนเดียว โดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่ต่ำกว่า 80% ของ NAV ซึ่งกองทุนหลักจดทะเบียนจัดตั้งที่ประเทศลักเซมเบิร์ก มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนระยะยาว เน้นลงทุนในตลาดหุ้น A-Shares ของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยไม่จำกัดกลุ่มอุตสาหกรรมหรือประเทศที่ก่อตั้งดำเนินธุรกิจและ ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารการลงทุน (efficient portfolio management)

สำหรับกองทุนหลักยังมีจุดเด่นที่สำคัญคือ มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น กองทุนได้ Overall Morningstar Rating 5 ดาว ในกลุ่ม China Equity กองทุนเน้นลงทุนในหุ้นจีนที่มีการเติบโตสูง (Growth) คุณภาพดี (Quality )และมีมูลค่าที่เหมาะสม (Valuation) เพื่อคัดสรรหลักทรัพย์ลงทุน 40 – 60 บริษัท โดยผ่านกระบวนการวิเคราะห์เชิงลึกอย่างเข้มข้นพร้อมด้วยทีมงานวิจัย ภาคสนาม (Grass root Research) ที่มีความเชี่ยวชาญ และคัดเลือกหุ้นที่มีผลตอบแทนสม่ำเสมอ โดยเน้นกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ อาทิบริษัทในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการบริโภคในประเทศจีน เช่น Consumer Brands, Tourism, Health Care Service หรือกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากนโยบายของภาครัฐอย่าง Semiconductor, รถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์ Hi-tech ต่างๆ

กองทุน MCHINA เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะกลางถึงระยะยาว โดยคาดหวังผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวจากการลงทุนในหุ้นจีน และผู้ที่ต้องการลงทุนในหุ้นบริษัทที่มีคุณภาพ เติบโต ในราคาที่เหมาะสม ซื้อและขายคืนได้ทุกวันทำการ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลอย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง ความเสี่ยงกองทุนอยู่ที่ระดับ 6

สำหรับจีนเป็นประเทศมหาอำนาจของโลก โดยมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 หรือคิดเป็น 16.2% ของจีดีพีโลก และคาดว่าจะเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกในปี 2030 ด้วยประชากร 1.5 พันล้านคน

นอกจากนี้จีนมีจุดเด่นในด้านกำลังการบริโภคขนาดใหญ่ของชนชั้นกลางและมีระดับรายได้สุทธิหลังหักภาษีที่สามารถใช้จ่ายได้จริงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง (เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5.8% ต่อปี) จีนได้ผ่านวิกฤติการระบาดของไวรัสโควิด 19 เป็นประเทศแรกส่งผลให้เศรษฐกิจจีนกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเนื่องจากการอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลและนโยบายผ่อนคลายการเงินส่งผลให้กลุ่มธุรกิจบางกลุ่มในจีนขยายตัวสวนกระแส จึงเป็นโอกาสดีที่จะลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพเติบโตในระยะยาวของจีนเพื่อสร้างความมั่นคั่งไปพร้อมกับการก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของจีน

จีนเป็นประเทศที่มีการเติบโตก้าวกระโดด จากประเทศที่อาศัยแรงงานผลิตสินค้าพื้นฐานด้วยต้นทุนต่ำ (Old Economy) ไปสู่การผลิตสินค้าบริการที่มีเทคโนโลยี (New Economy) ภายใต้นโยบาย Made in China 2025 จีนมีตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่และการขยายตัวของสังคมเมือง เป็นโอกาสดีในการลงทุนในกลุ่มบริษัทที่สอดคล้องกับการเติบโตอย่างรวดเร็วดังกล่าว ซึ่งส่วนใหญ่จดทะเบียนในตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้นจำนวนกว่า 3,500 บริษัทที่รวมเรียกว่า หุ้นจีน A-Shares ตลาดหุ้นจีน A-Shares ที่มีความน่าสนใจ และมีหุ้นที่หลากหลายโดดเด่น ได้แก่ ธุรกิจเกี่ยวข้องการบริโภค กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ กลุ่มอุตสาหกรรม กลุ่มธุรกิจด้านสุขภาพ กลุ่มวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร นอกจากนี้บริษัทในตลาดหุ้นจีน A-Shares ได้รับผลกระทบจากการสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอย่างจำกัด เนื่องจากรายได้ของบริษัทดังกล่าว กว่าร้อยละ 90 มาจากการบริโภคภายในประเทศจีน