หุ้นโลกป่วน ลากไทยร่วง 2.93% เตือนหลบภัย รอซื้อแถว 1,300

HoonSmart.com>>ความกลัวโควิดระบาดรอบสองทุบตลาดหุ้นโลกร่วงแรงอีกรอบ ดาวโจนส์ล่วงหน้าดิ่งเฉียด 900 จุด ยุโรปลบกว่า 1% ลากญี่ปุ่นทรุด 3.47% หุ้นไทยลง 2.93% แรงขายต่างชาติกว่า 4 พันล้านบาท นักวิเคราะห์ มีมติเอกฉันท์ลงต่อ ไม่ต้องรีบ ทางเทคนิคให้เป้า 1,300 จุด บล.กสิกรไทย เชียร์กลุ่มเดียว ICT ชู ADVANC  หนีให้ไกลแบงก์ใหญ่ นักลงทุนใจชื้นต่อมาตรการชอร์ตเซล ซิลลิ่ง-ฟลอร์ 15% ช่วยพยุงตลาด ” ทอง”ดูน่าสนใจยามวิกฤต ช่วงสั้นผันผวน ราคาในประเทศเปลี่ยนแปลง 7 ครั้งวันนี้ ปิดลดลงบาทละ 100 บาท

ตลาดหุ้นวันที่  15 มิ.ย. กระแทกลงแรงในช่วงบ่าย ตามดาวโจนส์ล่วงหน้าทรุดเกือบ 900 จุด หลังจากนั้นกระเตื้องขึ้นมา -500 จุด ช่วยให้ดัชนีปิดที่ระดับ 1,341.99 จุด -40.57 จุด หรือ -2.93% มูลค่าการซื้อขายรวม 83,379.76 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติทิ้งหนัก  4,013  ล้านบาท พอร์ตบล.ตามด้วย 1,555 ล้านบาท และสถาบันไทยขาย1,240  ล้านบาท รายย่อยซื้อกลุ่มเดียว 6,809 ล้านบาท

ด้านดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลงแรงที่สุดมากกว่า 6% ส่วนกลุ่มใหญ่อื่นๆ ปรับตัวลงมากกว่า 3% พลังงานและปิโตรเคมีอ่อนตัวตามราคาน้ำมันดิบ

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนคาดว่าตลาดหลักทรัพย์ต่อมาตรการชอร์ตเซล ที่กำหนดให้ราคาที่เสนอขายสูงกว่าซื้อขายครั้งสุดท้าย และซิลลิ่ง-ฟลอร์ 15%  จะช่วยพยุงตลาดหุ้นไทยไม่ให้ปรับตัวลงแรงและเร็วเกินไป

นักวิเคราะห์ทางเทคนิคระบุว่า ดัชนีที่ไหลลงอย่างรวดเร็ว ซื้อขายต่ำกว่า 1,360 จุด มีโอกาสลงไปทดสอบบริเวณ 1,300 จุด ผสมแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ที่ราคาหุ้นสูงกว่ามูลค่าเหมาะสมที่นักวิเคราะห์ให้ไว้  และยิ่งใกล้ถึงกำหนดการประกาศผลประกอบการงวดไตรมาส 2/2563 ตลาดเริ่มมีความกังวลเรื่องการขาดทุนของบริษัทหลายแห่ง เพราะการล็อกดาวน์ธุรกิจและประเทศ

บล.กสิกรไทย คาดดัชนีแกว่งในกรอบ 1,330-1,370 จุด ในช่วงนี้แนะนำหุ้น ICT คือ ADVANC ขณะที่ให้หลีกเลี่ยงหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ กลุ่มที่อิงกับสหรัฐและยุโรป เพราะความกังวลการแพร่ระบาดของโควิด- 19 รอบสอง รวมถึงกลุ่มนันแบงก์ที่มีความไม่แน่นอนจากนโยบาย

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)  แนะให้เล่นรอบ – ซื้อเก็งกำไร เน้นซื้อจังหวะอ่อนตัว โดยมีแนวรับ 1360-1340, 1320 จุด แต่หากดัชนีปรับขึ้นต่อเลยจะมีแนวต้าน 1390-1400, 1420 ต่ำกว่า 1370 ลดพอร์ตตาม/ Stop loss

สำหรับการลงทุนระยะยาว – ทยอยซื้อสะสมหุ้นพื้นฐานดี เติบโตได้ใน New Normal ในจังหวะราคาพักฐาน

สัปดาห์นี้ ตลาดยังคงแกว่งตัว จากกังวลไวรัสโควิดแพร่ระบาดระลอกสอง และวิตกว่าบางประเทศอาจประกาศล็อกดาวน์เป็นบางพื้นที่อีกรอบ ส่วนไทยดีกว่าหลายประเทศ  แต่ด้วย Valuation ตลาดที่แพง และความกังวลก็ทำให้หลายคนยังอยากลดพอร์ตหุ้นลงก่อน อย่างไรก็ดี การที่ตลาดมี Oversold ทำให้มีโอกาสรีบาวด์สั้นด้วยเช่นกัน

ในช่วงตลาดหุ้นผันผวนเพราะความกลัว ทำให้มีการโยกย้ายเงินเข้าไปพักในตลาดตราสารหนี้ และมองหาโอกาสการลงทุนในทองคำ แม้ว่าราคาทองล่วงหน้าอ่อนตัวลง และมีความผันผวน ทำให้ราคาซื้อขายในประเทศมีการเปลี่ยนแปลงถึง 7 ครั้ง เปิดตลาดเท่ากับวันก่อน  และมาปิดที่ราคารับซื้อ 25,200 บาท ขายออก 25,300 บาท สำหรับท่องคำแท่ง

นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล (YLG) เปิดเผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดทองคำกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยราคาพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดบริเวณ 1,744.77 ดอลลาร์ต่อออนซ์  หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ได้มีมุมมองเชิงลบต่อเศรษฐกิจในทุกด้าน คาดเศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลงถึง -6.5% ในปีนี้ จึงเป็นปัจจัยหนุนให้เงินลงทุนไหลเข้าสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปแบบดอกเบี้ยอย่างทองคำ

นอกจากนี้ ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยยังได้รับแรงหนุนเพิ่มจากความวิตกว่า สหรัฐและจีนเสี่ยงอาจเผชิญกับการระบาดระลอกสอง ซึ่งจะยิ่งบั่นทอนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

สำหรับการลงทุนในทองคำช่วงนี้ YLG ยังคงให้คำแนะนำลงทุนระยะสั้น รอจังหวะเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นไปบริเวณแนวต้าน ส่วนนักลงทุนที่มีทองคำในมือ แนะนำให้แบ่งขายทำกำไรเพียงบางส่วน หากราคาดีดตัวขึ้นและไม่ผ่านแนวต้าน 1,746-1,765 ดอลลาร์  และเข้าซื้ออีกครั้งหากราคามีการย่อตัวลงมาไม่หลุดบริเวณแนวรับ 1,680-1,657 ดอลลาร์