PJW เปิดแผนครึ่งปีหลังออกผลิตภัณฑ์ใหม่ คาดเริ่มรับรู้รายได้ไตรมาส 3 ปีนี้ ด้านสินค้าบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นสถานการณ์ดีขึ้น ความต้องการเพิ่ม โรงงานแห่งที่ 2 ในจีนเดินหน้าตามเป้าหนุนส่วนแบ่งตลาดน้ำมันหล่อลื่นระดับบน ดันยอดขายปี 2562 ในจีน โตเท่าตัว เผยอยู่ระหว่างศึกษาระบบออโตเมชั่นมาใช้ ลดต้นทุนการผลิต
นายวิวรรธน์ เหมมณฑารพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ปัญจวัฒนาพลาสติก (PJW) ดำเนินธุรกิจ ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทขวดและฝา ได้แก่ น้ำมันหล่อลื่น นมและนมเปรี้ยว สินค้าอุปโภคและบริโภค น้ำยาเคมีสำหรับใช้ในการเกษตร และชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับยานยนต์ เปิดเผยว่า ภาพรวมผลประกอบการในปี 2561 บริษัทฯคาดว่ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 8% เนื่องจากบริษัทฯ มีแผนจะการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ (new model) ในงานชิ้นส่วนยานยนต์ และโรงพ่นสี ซึ่งยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ และการวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์สินค้าอีกหลายรายการ คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
สำหรับสินค้าประเภทบรรจุภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นนั้น ปัจจุบันสถานการณ์ปรับตัวดีขึ้น และมีสัญญาณที่ดีจากเดิม ดังนั้น น่าจะทำให้ปริมาณคำสั่งซื้อจากลูกค้าเริ่มทยอยกลับมา ขณะที่สินค้าประเภทบรรจุภัณฑ์นม และนมเปรี้ยว พบว่า ยอดคำสั่งซื้อจากลูกค้าจะเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีแผนที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ และสามารถวางจำหน่ายทำให้เกิดการรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 3 นี้
“บริษัทยังมั่นใจว่าในปี 2561 รายได้ในภาพรวมทั้งปีจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 8% และคาดการณ์อัตรากำไรขั้นต้นจะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยมีแรงหนุนจากการเติบโตของยอดขายนิวโมเดลของชิ้นส่วนยานยนต์ ขณะที่โรงงานพ่นสียังมีความสามารถใช้กำลังการผลิตได้สูงขึ้นเป็น 60% ภายในปีนี้ หากมีคำสั่งซื้อเข้ามาต่อเนื่อง ตามแผนที่วางไว้ ประกอบกับบริษัทสามารถบริหารต้นทุนคงที่ได้ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นจะเป็นไปตามแผนงบประมาณที่วางไว้” นายวิวรรธน์ กล่าว
ส่วนธุรกิจในประเทศจีนนั้น ตามที่บริษัทมีแผนจะเช่าโรงงานใหม่เพิ่มเติมอีก 1 แห่ง โดยมีมูลค่าเงินลงทุนสำหรับการสั่งซื้อเครื่องจักรและการปรับปรุงโรงงานมูลค่าประมาณกว่า 150 กว่าล้านบาท ซึ่งตั้งอยู่บริเวณ มณฑลเจียงซู และจะเริ่มผลิตได้ประมาณไตรมาส 1 ปีหน้า เป็นไปตามแผนที่วางไว้
อย่างไรก็ตาม การเช่าโรงงานแห่งที่ 2 ในจีนจะเป็นการเสริมสร้างรากฐานและความแข็งแกร่งสำหรับการเติบโตให้แก่ ธุรกิจของ PJW ในจีนมากขึ้น และการจัดตั้งบริษัทย่อย ณ มณฑลเจียงซู นั้นได้ดำเนินการจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว และบริษัทฯคาดว่าในปี 2562 จะรับรู้ยอดขายใหม่มูลค่าประมาณ 60 ล้านหยวนหรือ 300 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตขึ้น 1 เท่าตัวจากที่ประเมินว่าจะทำได้ในปี 2561 โดยมีสัญญาการขายกับลูกค้าเป็นระยะเวลา 7 ปี
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาระบบออโตเมชั่นมาใช้ในการควบคุมขบวนการผลิตมากขึ้น โดยจะนำมาใช้ในโรงงานในเมืองจีน เพื่อลดต้นทุนด้านแรงงานและเพิ่มความน่าเชื่อถือของคุณภาพในกระบวนการผลิตมากขึ้น ซึ่งระบบการควบคุมการผลิตจะมีความแม่นยำถูกต้อง และสามารถช่วยลดต้นทุนในการผลิตได้เป็นอย่างดี