NVDR ซื้อ BBL-BDMS-MINT-SAWAD-PTTGC ขาย SCB-STA-PTTEP-KBANK-ADVANC

HoonSmart.com>>บล.คิงส์ฟอร์ดเผย 11 มิ.ย. NVDR ซื้อสุทธิ 348 ล้านบาท คาดวันนี้ดัชนีร่วง 2.5-3% แนวรับ 1,350 – 1,357 จุด แนวต้าน 1,375 จุด แนะนำ TASCO-NER

บล.คิงส์ฟอร์ด สรุปข้อมูล NVDR วันที่ 11 มิ.ย.2563 มียอดซื้อสุทธิอยู่ที่ 348 ล้านบาท โดยมียอดซื้อหุ้น BBL,BDMS,MINT,SAWAD,PTTGC และมียอดขายหุ้น SCB,STA,PTTEP, KBANK,ADVANC ส่วนมูลค่า Short Sales อยู่ที่ระดับ 922 ล้านบาท หุ้นที่มีมูลค่า Short สูงคือ CPF,AOT,MINT โดยนักลงทุนต่างประเทศมีสถานะ Short ใน Index Futures จำนวน 3,210 สัญญาและมียอด Long สะสมตั้งแต่ต้นปีอยู่ที่ 103,138 สัญญา นักลงทุนต่างชาติซื้อพันธบัตรจำนวน 1,950 ล้านบาท

ตลาดหุ้นวันนี้มีโอกาสปรับฐานลงตามดัชนีภูมิภาคที่ลดลง -2.5 % ถึง – 3 % วางแนวรับดัชนีที่ 1,350 – 1,357 จุด แนวต้าน 1,375 จุด สำหรับนักลงทุนที่มีหุ้นในพอร์ตมาก แนะนำลดพอร์ตลง 20 % ช่วงดัชนีรีบาวน์

บล.คิงส์ฟอร์ดแนะนำทยอยซื้อเมื่ออ่อนตัวTASCO ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 23.40 บาท  ผลประกอบการจะดีขึ้น มีโอกาสกลับมามี Stock Gain ขณะที่ผลการดำเนินงานหลักทยอยฟื้นตัว นอกจากนี้ยังมีปัจจัยหนุนทางด้านราคาจาก Supply ยางมะตอยประเทศที่มีโอกาสขาดแคลน เนื่องจากโรงกลั่นหลักๆ ทยอยปรับลดกำลังการผลิตลง ส่งผลให้ราคายางมะตอย AC ในประเทศดีขึ้นจากจุดต่ำสุดในเดือน เม.ย.ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณของกรมทางหลวง/กรมทางหลวงชนบทจะเร่งตัวขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเป้าปริมาณขายในปี 63 ที่บริษัทตั้งไว้ 1.8-1.9 ล้านตัน ระยะสั้นมีประเด็นสนับสนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง

นอกจากนี้แนะนำทยอยซื้อสะสมNER ราคาเป้าหมาย Bloomberg Consensus 3.03 บาท  หุ้นกลุ่มยางพารา ได้ปัจจัยบวกจากหลายปัจจัย อาทิเช่น โครงการแผ่นยางพาราหุ้มแบริเออร์ของรัฐบาล(ดำเนินการปี2563-2565 ใช้ยางประมาณ 360,000 ตัน) ความต้องการยางของตลาดจีนที่จะเริ่มกลับมาฟื้นตัว  NER มีการเซ็นสัญญาซื้อระยะยาวจากลูกค้าใหญ่ 2ราย (เริ่มเดือน มิ.ย.และก.ค.ปีนี้ถึงปี2564 ยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น7.2 หมื่นตันต่อปี) และมีการเปิดโรงงานใหม่เพื่อขยายกำลังผลิต เริ่มไตรมาส 3 ตลาดคาดรายได้ปี2563 และ ปี2564 ขยายตัวที่ 15.51 พันล้านบาท(+19.25%) และ 20.66 พันล้านบาท(+33.21%) ตามลำดับ