VGI กำไรปี 62/63 ทำสถิติสูงสุด 1.42 พันลบ. โต 29% ปันผล 0.016 บาท

HoonSmart.com>> “วีจีไอ” โชว์กำไรปี 2562/63 ทำสถิติสูงสุด 1,424 ล้านบาท เติบโต 29% จากงวดปีก่อน กวาดรายได้ 4,000 ล้านบาท ผลสำเร็จกลยุทธ์ O2O คาดปี 2563/64 ธุรกิจสื่อโฆษณาถูกกระทบโดยตรงจากโควิด-19 เน้นลดค่าใช้จ่าย เลื่อนลงทุนโครงการใหม่ๆ ด้านบอร์ดไฟเขียวปันผล 0.016 บาทต่อหุ้น XD 23 ก.ค.63

บริษัท วีจีไอ (VGI) เปิดเผยผลการดำเนินงานประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2563 จำนวน 1,423.94 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.1658 บาท เพิ่มขึ้น 29.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 1,101.24 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.1342 บาท

ในปี 2562/63 บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้ที่ 4,000 ล้านบาท และกำไรสุทธิสูงสุดในประวัติการณ์ตามเป้าหมายที่่คาดการณ์ไว้ ซึ่งความสำเร็จในครั้งนี้เกิดจากการที่บริษัทฯ ใช้กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในการเป็นผู้ให้บริการ Offline-to-Online (O2O) โซลูชั่นส์บนแพลตฟอร์ม 1 ที่ประกอบไปด้วย ธุรกิจสื่อโฆษณา ธุรกิจบริการชำระเงิน และธุรกิจโลจิสติกส์ อย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2560

ทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ทำการยุติการควบรวมการเงินของบริษัท มาสเตอร์ แอด (MACO) เป็นที่เรียบร้อย ส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลงประเภทของกำรลงทุนใน MACO จากบริษัทย่อยเป็นบริษัทร่วม ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค.2563 ดังนั้นรายได้จากสื่อโฆษณากลางแจ้งที่ MACO ทำกำรบริหารโดยตรง รวมถึงรายได้จากกลุ่มทรานซ์.แอด ที่บันทึกภายใต้ธุรกิจบริการด้านดิจิทัลสำหรับปี 2561/62 และปี 2562/63 จะถูกปรับปรุงออกจากงบกำไรขาดทุนของ VGI

ทั้งนี้บริษัทฯ จะรับรู้เพียงส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) จากเงินลงทุนใน MACO บริษัทฯ รับรู้กำไรสุทธิจากรายการพิเศษ 143 ล้านบาท ภายหลังการยุติการควบรวมงบการเงินของ MACO

VGI Digital Lab สามารถสร้างรายได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีแรกของการดาเนินงาน ทำให้ธุรกิจบริการด้านดิจิทัลเติบโตกว่ำ 117.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

สำหรับปี 2563/64 บริษัทฯ คาดการณ์ว่าธุรกิจสื่อโฆษณาจะได้รับผลกระทบโดยตรงจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 อย่างไรก็ตามหน่วยธุรกิจออนไลน์เอเจนซี่จะได้รับผลบวกจากความต้องการใช้สื่อของนักโฆษณาที่หันมาใช้สื่อออนไลน์มากขึ้น ด้านธุรกิจบริการชำระเงินที่ให้บริการผ่านช่องทางออฟไลน์และออนไลน์นั้น จะได้รับผลกระทบจากจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอสที่ลดลง รวมถึงการจำกัดเวลาในการดำเนินงานของร้านค้าต่างๆ อย่างไรก็ตามผู้บริโภคยังสามารถใช้บริการชำระเงินบนช่องทางออนไลน์ได้ตามปกติ

สำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ผ่านการบริหารของบริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด คาดว่าจะมีการเติบโตอย่างเห็นได้ชัดจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่หันมาใช้บริการผ่ำนทางตลาดอี-คอมเมิร์ซมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ผลกระทบในวงกว้างจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้บริษัทฯ เน้นการลดค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ รวมถึงเลื่อนการใช้เงินลงทุนเพื่อโครงการใหม่ๆ อย่างไรก็ตามบริษัทฯ จะยังคงมุ่งต่อยอดผลงานจากโครงการที่มีอยู่ในมือ เพื่อเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจด้านความมั่นคงของสถานะทางการเงินของบริษัทฯ

ปัจจุบันการประเมินผลกระทบต่อผลการดำเนินงานนั้นเป็นไปได้ยาก เนื่องจากยังไม่สามารถประเมินได้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะยุติลงเมื่อใด อีกทั้งยังมีมาตรการใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยเหตุนี้บริษัทฯ จึงไม่สามารถคาดการณ์แนวโน้มผลการดำเนินงานที่ชัดเจนสำหรับปี2563/64

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ จะติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และจะประกาศแนวโน้มผลกำรดำเนินงานอีกครั้งเมื่อผลกระทบจากสถานการณ์นี้มีความชัดเจนมากขึ้น แม้ว่าบริษัทฯ จะได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ในช่วงต้นปี 2563 คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการครึ่งปีหลังของปี 2562/63 (1 ต.ค.2562-31 มี.ค.2563) ที่ 0.016 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) วันที่ 24 ก.ค. 2563 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) วันที่ 23 ก.ค. 2563 และจ่ายเงินวันที่ 14 ทั้งนี้ การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น